จุดชมวิวถ้ำกระแซกลายเป็นฝันร้าย! ระอุด้วยกระแสต่อต้าน

ที่ถ้ำกระแซ ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ระดับโลก ทางรถไฟสายมรณะ กำลังตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง หลังพบว่า มีการก่อสร้างโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ ที่ถูกตั้งใจเป็นจุดชมวิวใหม่ กลับกลายเป็นสิ่งบดบังทัศนียภาพอันงดงามของเส้นทางรถไฟสายมรณะอย่างชัดเจน ส่งผลให้ชุมชนและนักท่องเที่ยวหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเหมาะสม

จากการตรวจสอบพบว่า เพจเฟซบุ๊ก “Anuparb Lorwong-ngam” ได้เผยแพร่คลิปและภาพบรรยากาศการก่อสร้างโครงเหล็กบริเวณถ้ำกระแซ พร้อมข้อความตำหนิว่า จุดชมวิวดังกล่าวกลายเป็น “ทัศนอุจาด” ที่ทำลายความงามของ “สะพานรถไฟตอม่อไม้แห่งสุดท้ายของประเทศ” ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และอาจได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในอนาคต

ข้อความดังกล่าวตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการดำเนินงานว่ามีการทำประชาพิจารณ์หรือรับฟังเสียงของชุมชนก่อนหรือไม่ ใครเป็นผู้สั่งการให้สร้าง และเหตุผลในการขุดเจาะหน้าผาที่อาจทำลายภูมิทัศน์ รวมทั้งความปลอดภัยของโครงสร้างว่าจริงจังหรือไม่ โดยระบุว่า “คนไทยทุกคนควรร่วมส่งเสียงเพื่อปกป้องสถานที่สำคัญนี้ ไม่ให้ถูกทำลายโดยผลประโยชน์ส่วนตัว”

เสียงสะท้อนจากผู้ที่เคยมาเที่ยวถ้ำกระแซมีกันทันทีในโพสต์ที่เผยแพร่เมื่อ 24 ส.ค. จำนวนมาก หลายคนเห็นตรงกันว่า โครงเหล็กดังกล่าวทำให้จุดเช็กอินระดับตำนานกลายเป็นภาพไม่สวยงาม เสียโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ขณะที่บางความเห็นชี้ว่า หากเป็นเรื่องความปลอดภัย ยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไม่ใช่การสร้างโครงสร้างใหญ่รบกวนเสน่ห์ของสถานที่

นอกจากนี้เพจและกลุ่มนักท่องเที่ยวหลายแห่งยังออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงเดียวกัน เช่น การทำลายจุดขายสำคัญของเส้นทางรถไฟสายมรณะซึ่งเป็นทั้งสัญลักษณ์และรายได้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงข้อเสนอให้ชะลอหรือยกเลิกโครงการดังกล่าว

เส้นทางรถไฟสายมรณะโดยเฉพาะบริเวณถ้ำกระแซ มีทัศนียภาพที่สวยงามผสานกับความท้าทายจากทางโค้งเลียบเขาชันและเหวลึกเหนือแม่น้ำแควน้อย เป็นจุดชมวิวและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติอย่างมาก ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดให้บริการรถไฟสายธนบุรี-น้ำตกทุกวัน และยังมีขบวนพิเศษในวันหยุดช่วงสุดสัปดาห์ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่

อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งรอบโครงการจุดชมวิวถ้ำกระแซสะท้อนถึงความท้าทายในการรักษามรดกทางประวัติศาสตร์ให้คงความงดงามดั้งเดิม ท่ามกลางความต้องการพัฒนาและความปลอดภัยที่จะต้องลงตัวระหว่างกัน เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นนี้และรุ่นต่อ ๆ ไป

คาดว่าภายในเร็ว ๆ นี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องออกมาให้ข้อมูลและชี้แจงประเด็นดังกล่าวอย่างชัดเจน เพื่อคลี่คลายความกังวลของสังคมและรักษาชื่อเสียงของเส้นทางรถไฟสายมรณะที่สำคัญระดับโลกไว้ได้อย่างยั่งยืน