
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า อย่าด้อยค่าคนอื่น ด้วยการชี้นิ้วว่าโกง
ทั้งๆ ที่ตัวเองถูกศาลฎีกา คดีที่ 3969/2559 ตัดสินว่า “โกงผู้ถือหุ้น” จำคุก 20 ปี
ทำไมคนเราลืมกระทั่งกำพืดตัวเองว่า “คราบไคลขี้คุก”?
ก็ติดคุกเหมือนผม แต่ผมไม่เคยโกงคนอื่น ทำรายงานการประชุมเท็จเหมือนสนธิ
ศาลตัดสินจำคุกผม 2 ปี ฐานบุกรุกที่ตัวเอง แต่สนธิโดนไป 20 ปี ฐาน
1. ร่วมกันลงข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารของบริษัท
2. ร่วมกันกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริตเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของบริษัท
3. ร่วมกันกระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่นอันเป็นการเสียหายแก่บริษัท
4. ร่วมกันไม่ลงข้อความอันสำคัญในบัญชีหรือเอกสารของบริษัท
5. ร่วมกันทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง เพื่อลวงให้บริษัทหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้ หรือลวงบุคคลใดๆ
ละครลิงอย่างผมที่สนธิจีบปากจีบคอพูด ก็ยังมีเรื่องจริงมากกว่า “ละครลิงสนธิ” ที่พูดจนคนฟังแทบหลับ
เพราะไม่มีสาระเอาไว้ใช้หากินตอนแก่
สนธิถูกตัดสินจากศาลฎีกาว่า “โกง” แล้วยังจะไปมีเครดิตเหลืออะไรที่จะไปบอกว่าคนอื่นโกหก?
ในเมื่อสนธิยังโกหกแม้กระทั่งผู้ถือหุ้นบริษัทตัวเอง
ละครสนธิจึงเป็นแค่ละครที่แสดงโดยคนแก่ขี้เหงา ที่ความเป็นจริงตัวเองถูกศาลจำคุก
เจอผมในคุกเข้ามาทีหลัง สภาพเหมือน “ลิงป่วย” เงอะๆ งะๆ
คนเราต้องรู้ว่าถึงเวลาที่ต้องหยุด ไม่ใช่แก่จนป่านนี้ ยังไม่หยุดสร้างวีรกรรมโกหก ปั้นน้ำเป็นตัว
ตั้งแต่ไล่ทักษิณ พันธมิตรลิเก จนกลับมาชมทักษิณใหม่ รักเพื่อไทยเสียแล้ว
คนอะไรมันจะเลอะเทอะเอาได้ถึงปานนี้?
