เมื่อวันที่ 4 กันยายน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า พรรคประชาชนไม่ได้มีความเห็นที่แตกแยก ที่ผ่านมาตลอดทั้งวัน ค่อนข้างชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคลงแข่งกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งกระบวนการการตัดสินใจของพรรคประชาชนได้สิ้นสุดลงแล้ว ตั้งแต่กรรมการบริหารพรรคได้แถลงข่าวและลงนามในข้อตกลงร่วมกันกับพรรคภูมิใจไทย
นายณัฐพงษ์ กล่าวย้ำว่า ไม่มีการปล่อยให้สส.ฟรีโหวตอย่างแน่นอน เชื่อมั่นว่า สส. ทุกคนของพรรคก็จะปฏิบัติตามมติ แต่ยอมรับว่าความอึดอัดใจของสมาชิกย่อมมีอยู่แล้วแต่ยอมรับฟังความคิดเห็นของทุกคน แต่ท้ายที่สุดไม่กังวล ว่า สส. ของพรรค จะฝ่าฝืนมติรอดูว่าจะมีเสียงแตกหรือไม่แต่ตอนนี้เชื่อมั่นว่าไม่มีอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ได้ยืนยันต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ว่า ตนเองไม่ได้ประสานเพื่อขอเลื่อนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป และได้ยืนยันกับประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ว่าจะไม่เกิดขึ้น
หัวหน้าพรรคประชาชน ย้ำว่า การเลือกนายอนุทินขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เพื่อเดินหน้าไปสู่การตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจเพื่อยุบสภาและทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นคณะรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เป็นรัฐบาลภาคประชาชนไม่ต้องแบกรับ เพราะยังทำหน้าที่ฝ่ายค้านและตรวจสอบอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า ข้อเสนอพรรคเพื่อไทยบอกว่า หากเลือกนายชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรีจะยุบสภาให้ทันที นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า หากข้อเสนอนี้เกิดขึ้น อย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ ก่อนที่พรรคประชาชนจะมีมติ เชื่อว่าตนเองและเพื่อนสมาชิกในพรรคก็จะรับไว้พิจารณา แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ยังมีการให้ข่าวกลับไปกลับมาของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นจึงพอประเมินได้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีความจริงจังหรือจริงใจที่จะบรรลุข้อตกลง กับพรรคประชาชน ทั้งยังมีความพยายามปล่อยข่าวเพื่อช่วงชิงจังหวะความได้เปรียบทางการเมืองมากกว่า
อย่าวไรก็ตาม จนถึงตอนนี้หลังจากที่พรรคประชาชนได้บรรลุข้อตกลงกับพรรคภูมิใจไทยแล้วยังมีความพยายามปล่อยข่าว ต่างๆออกมาอีกทำให้พรรคประชาชนไม่สามารถเชื่อคำพูดของพรรคเพื่อไทยได้อีก สิ่งที่พรรคประชาชนดำเนินการก็คือต้องหนักแน่นกับการตัดสินใจในครั้งนี้ และได้ประเมินสถานการณ์ช่างน้ำหนักจากทุกด้าน ก่อนที่จะมีมติออกมา มั่นใจว่ามติของพรรคที่ออกไปเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศในอนาคต
นายณัฐพงษ์ กล่าวย้ำหากรัฐบาลเฉพาะกิจที่กำลังจะตั้งขึ้น ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องก็เป็นหน้าที่ของพรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านจะต้องตรวจสอบโดยไม่มีการออมมือแต่อย่างใด โดยใช้กลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจมาดำเนินการทันที ดังนั้นขอให้จับตาว่าต่อจากนี้อีกสี่เดือน พรรคประชาชนจะใช้เสียงข้างมากที่มีกำกับทิศทางของรัฐบาลเฉพาะกิจ เพื่อเดินไปสู่สิ่งที่เสนอไว้ได้มากน้อยแค่ไหน มั่นใจว่าจะสามารถกำกับทิศทางของรัฐบาลเฉพาะกิจชุดนี้ได้
” พรรคไม่เสียดาย และไม่คิดจะกลับไปทบทวนมติที่ออกมาแต่อย่างใด เดินหน้าหาทางออกให้กับประเทศหลังจากนี้จะมีการประเมินสถานการณ์ในทุกๆวัน หากพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลไปแล้ว และไม่ได้ดำเนินการตามข้อตกลงพรรคประชาชนก็พร้อมใช้เสียงที่มีอยู่ในสภายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที”หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าว