
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา, นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม, พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผล “ปฏิบัติการสางคดีสำคัญ” รวม 5 คดีใหญ่ ครอบคลุมคดียาเสพติด ก่อเหตุฆาตกรรม และการรับจ้างยิงเพื่อล้างหนี้มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.ท.พิสิฐ เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เกิดจากการบูรณาการร่วมระหว่างตำรวจ ภาค 7 หน่วยทหาร ฝ่ายปกครอง และจังหวัดนครปฐม ใช้ข้อมูลข่าวกรองและเทคโนโลยีสืบสวนติดตามผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิด จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทุกคดี โดยเฉพาะคดียาเสพติดรายใหญ่ที่สามารถยึดของกลางได้มหาศาล

🔹 คดีที่ 1: ยึดยาบ้า 4.1 ล้านเม็ดกลางราชบุรี
เจ้าหน้าที่จับกุม นายประภากร อายุ 42 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 4.1 ล้านเม็ด คีตามีน 3.15 กรัม รถยนต์ 3 คัน และโทรศัพท์ 2 เครื่อง จับกุมได้บริเวณสี่แยกปากท่อ จ.ราชบุรี เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังสืบทราบว่าขบวนการนี้ลักลอบขนยาเข้าพื้นที่ภาคตะวันตกมานานกว่า 4 เดือน
🔹 คดีที่ 2: จ้างวานฆ่าล้างหนี้ 130 ล้านบาท
ตำรวจจับกุม นายอาภากร มือปืนรับจ้าง และ นายวรวิทย์ ผู้จ้างวาน โดยคดีนี้เกี่ยวโยงกับการหักหนี้สินมูลค่ากว่า 130 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลถึงผู้บงการรายใหญ่

🔹 คดีที่ 3: ฆ่ากันกลางถนน – แทงดับคนขับวิน
จับกุม นายสุวัฒิ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาฆ่า นายเกื้อ สิงห์สนั่น อายุ 55 ปี คนขับวินจักรยานยนต์ ถูกแทงเสียชีวิตบริเวณถนนคลองรางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม
จับได้ภายในซอยจันทร์ 23/2 เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ พร้อมของกลางมีดที่ใช้ก่อเหตุ
🔹 คดีที่ 4: แรงงานเมียนมาร์คลั่ง – แทงเพื่อนร่วมงานในโรงงาน
จับกุม นาย Zaw Zaw Lin อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ภายในโรงงานไวไว อ.อ้อมใหญ่ จ.นครปฐม หลังใช้มีดพยายามฆ่าเพื่อนร่วมงาน ถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่าและพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น

🔹 คดีที่ 5: ดราม่าในครอบครัว – ลูกเขยยิงพ่อตาดับ
จับกุม นาย นราธิป อายุ 29 ปี ผู้ต้องหายิงพ่อตา นายดอกเลา กลิ่นเจริญ อายุ 59 ปี เสียชีวิตภายในบ้านพักที่ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม จากความขัดแย้งในครอบครัว ตรวจยึดปืน Glock ขนาด 9 มม. และปืนไทยประดิษฐ์อีก 1 กระบอก
นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จของปฏิบัติการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างทุกหน่วยงาน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ร่วมกันใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ในการติดตามผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่อง
“จังหวัดนครปฐมจะเดินหน้าสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนในพื้นที่อยู่ร่วมกันอย่างผาสุก” ผู้ว่าฯ กล่าว
ภาพ/ข่าว : กิตติพงษ์ จันทร์ละมูล ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครปฐม
