
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงการควบคุมปราสาทตาควายว่า พื้นที่การปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดมีเพียง ‘ปราสาทตาควาย’ ที่เดียวที่มีข้อจำกัด แต่หากจะพูดถึงการควบคุมพื้นที่ เราสามารถควบคุมได้ตามแผน ตามเป้าหมายทางการทหารที่ได้วางไว้ โดยพื้นที่ประสาทตาควาย ถือเป็นความพยายามสุดท้ายของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก่อนถึงเวลาหยุดยิง ยอมรับว่า ปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% เพียงแต่เราได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นกว่าก่อนที่จะมีการปะทะ
พลตรีวินธัยกล่าวว่า จะเห็นว่าปัจจุบันเราควบคุมพื้นที่ได้ด้วยการใช้อาวุธยิง ซึ่งลักษณะการวางกำลังบริเวณปราสาทตาควาย จะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ที่เป็น ‘จุดสำคัญทางการทหาร’ ไม่ใช่ตัวประสาทตาควาย เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ แต่เดิมหากเราวางกำลังประจำอยู่ที่ปราสาทตาควาย จะเป็นความไม่ปลอดภัยในเรื่องการใช้อาวุธจากฝ่ายตรงข้าม เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของการคุมพื้นที่
สำหรับ ห้วงสุดท้ายสำหรับการใช้กำลัง เราพยายามกระทำต่อเป้าหมาย ‘จุดสูงข่ม’ คือ ‘เนิน 350’ ซึ่งอาจจะมองเหมือนว่า อยู่ในฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นจุดสำคัญที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติทางทหาร จึงเป็นความสำคัญสูงสุดที่เราจะต้องยึดที่หมายนี้ให้ได้ แต่เวลามีให้เราไม่เพียงพอ ซึ่งอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมพื้นที่ส่วนรวมด้วยอาวุธ
ทั้งนี้ ‘เนิน 350’ เป็นพื้นที่วางกำลังของทหารกัมพูชา ซึ่งเขาใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาที่ปราสาทตาควาย ทำให้เราไม่สามารถวางกำลังประจำภายในปราสาทตาควายได้ เพราะจะกลายเป็นเป้าหมายนิ่ง และมีความอ่อนแอไม่เหมือนกับ ‘เนิน 350’ ลักษณะภูมิประเทศของ ‘ปราสาทตาควาย’ จึงแตกต่างกับจุดอื่น หากเราเคลื่อนกำลังผลีผลาม จะโดนอาวุธยิงสนับสนุน ก็คือ BM-21 พร้อมจู่โจมเราอยู่แล้ว และในห้วงเวลาสุดท้าย เรามีความพยายามที่จะยึดเนิน 350 และปราสาทตาควาย ไปด้วยพร้อมกัน พยายามเข้าสู่ 2 ที่หมาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับ ‘สนามทุ่นระเบิด’ ที่ ‘กัมพูชา’ วางไว้ ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก แต่สาหัส จำนวน 1 นาย
พลตรีวินธัย กล่าวว่า การเข้าสู่ปราสาทตาควายในห้วงเวลาสุดท้ายถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่เรายอมรับว่า การบาดเจ็บจากสนามทุ่นระเบิดนั้น รั้งหน่วงในการที่จะรุกคืบในขั้นสุดท้ายของเรา ซึ่งเราต้องพยายามสร้างสมดุลภารกิจสุดท้าย กับขวัญและกำลังใจของทหาร-ความปลอดภัยควบคู่กันไป และเมื่อถึงเวลาหยุดยิง เราสามารถควบคุมพื้นที่มากกว่าเดิม เพียงแต่เราไม่มีกำลังประจำที่ปราสาทตาควาย
เมื่อถามย้ำว่า เราไม่สามารถยึดประสาทตาควายได้ใช่หรือไม่ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การปฏิบัติการทางทหารไม่ได้พุ่งเป้าไปที่สิ่งปลูกสร้างเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงองค์ประกอบโดยรวมด้วย ซึ่งยืนยันว่า เราได้พื้นที่เพิ่มเติม และพื้นที่ที่ได้ ก็ถือว่า ‘ควบคุมตัวปราสาทได้’ ขณะนี้จะเห็นได้ว่า มีทหารกัมพูชาอยู่ในตัวปราสาทไปอยู่ในขั้นตอนของการหยุดยิง แต่ไม่ได้หมายความว่า ใครที่เดินอยู่ภายในปราสาทตาควาย จะเป็นผู้แพ้ชนะ ในการต่อสู้บนพื้นที่ปราสาทตาควาย
พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ได้เก็บรวบรวมหลักฐาน กรณีทหารกัมพูชาวาง ‘ทุ่นระเบิด’ บริเวณโดยรอบปราสาทตาควาย เพราะละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งมีหลักฐานเชิงประจักษ์ เพราะเรามีผู้บาดเจ็บ
จากสื่อสังคมออนไลน์ จะเห็นว่า มีชาวกัมพูชาที่อยู่บนปราสาทตาเมืองธม และมีวัตถุระเบิด PMN-2 วางอยู่ ซึ่งไม่ใช่ชิ้นเดียว เป็นสิ่งบอกเหตุว่า มีจำนวนเยอะมาก ถือเป็นข้อมูลและองค์ประกอบหนึ่ง ต้องเข้าใจว่าปัจจุบันการต่อสู้ทางการทหารคลี่คลายลงไปบ้าง แต่การต่อสู้การเมืองระหว่างประเทศ ต้องดำเนินการต่อ ซึ่งรัฐบาลกับกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอยู่ หลักฐานข้อพิสูจน์ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้หมดแล้ว
เมื่อถามว่า ก่อนเจรจาหยุดยิง รัฐบาลได้ประสานงานมากับกองทัพในฐานะที่รับผิดชอบในหน้างานว่าสามารถควบคุมพื้นที่ได้หรือไม่ ก่อนที่จะไปเจรจา โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ในส่วนของ ‘โฆษกกองทัพบก’ ไม่ได้รับข้อมูลเลย ตนรับผิดชอบเฉพาะการปฏิบัติการทางทหารของหน่วยในพื้นที่ และยืนยันว่าการปฏิบัติการในช่วงห้วงสุดท้าย เราได้ทำอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่า ทหารไม่มีความกดดันในการปฏิบัติในหน้างาน ซึ่งในภาพรวมเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ 99%
“ตัวปราสาทตาควายไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์ที่เราต้องการ เพราะอยู่ต่ำกว่า ‘เนิน 350’ เราไปยืนอยู่ที่ตัวปราสาทตาควาย ไม่ได้หมายความว่าเราชนะ แต่ต้องไปดู ‘พื้นที่ที่เราควบคุมได้’ ว่าจะมีการใช้ประโยชน์อย่างไร หากจับที่สิ่งปลูกสร้าง ก็จะมองว่าทหารไทยยึดไม่ได้ แต่หากมองในแง่การทหาร เราควบคุมพื้นที่ได้มากกว่าที่เราเคยอยู่เดิม”พลตรีวินธัยกล่าว
เมื่อถามว่า มีสื่อออนไลน์ออกมาดูแคลนทหารไทยที่ต้องสูญเสียปราสาทตาควายไป จึงอยากให้กองทัพบก พูดถึงความตั้งใจของทหารไทยที่จะปกป้องดินแดนตรงนี้ พลตรีวินธัย กล่าวว่า ตนว่าพี่น้องประชาชนคนส่วนใหญ่ ได้เห็นว่าสิ่งที่กองทัพไทยทำดีที่สุด และเราไม่เคยทำอะไรให้มีความเคลือบแคลงใจในสิ่งที่เรากำลังปฏิบัติ และสิ่งที่เรากำลังพยายาม ตนเชื่อว่าอาจจะมีส่วนน้อย แต่ไม่ได้มองว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องไม่ดี เรายังสามารถเพิ่มเติมและเสริมข้อมูลให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เราให้หน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานภาคพลเรือน รวมถึงสื่อมวลชน และขอเรียนว่า ตนให้ข้อมูลการปฏิบัติในห้วงเวลาสุดท้าย ตนคิดว่า เราได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุด
เมื่อถามถึงสาเหตุการเสียปราสาทตาควายเพราะเรายืดเวลาหยุดยิงออกไป เพี่ออยากยุติการหยุดยิงในเวลา 18.00 น แต่ทางกัมพูชาขอให้หยุดยิงในเวลา 24.00 น. ทำให้เราไม่สามารถเสริมกำลังไปที่ปราสาทตาควายได้ พลตรีวินธัย กล่าวว่า ตรงนี้ตนไม่มีข้อมูล และรายละเอียดที่ชัดเจนแบบนั้น