
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. กองทัพบกเชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย เชิญไปทั้งสิ้น 47 ประเทศ ตอบรับเข้าร่วม 20 ประเทศ เข้ารับฟังการชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่เนิน 481 ช่องบก จ.อุบลราชธานี ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 3 นาย โดยมี พลโทกำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธาน ณ ห้องประชุมอาคารศรีสิทธิสงคราม

นอกจากนี้ ยังมีประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วม อาทิ ลาว เวียดนาม บรูไน ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ และอินโดนิเซีย ส่วนประเทศอื่น ๆ อาทิ ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน จีน ญี่ปุ่น และอิสราเอล ซึ่งประเทศมหาอำนาจ อย่าง จีน และรัสเซียเข้าประชุมด้วย ขณะที่ประเทศกัมพูชา ส่งพลจัตวา ฮอม คิม ผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชา เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ การประชุมอนุญาตให้สื่อมวลชนเก็บภาพแค่ช่วงต้นของการประชุมเท่านั้น โดยภายหลังการประชุมจะมีการส่งเอกสารข่าวแจ้งต่อสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ค. กระทรวงการต่างประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ ขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ ละเมิดพันธะกรณีที่อยู่ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญา จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาโดยจะยังคงหาทางแก้ไขปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆที่มีอยู่ และขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุนระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดนตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันภายในกรอบทวิภาคี