
เมื่อวันที่ 11 กรกฎษคม เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในงดดื่มสุราแห่งชาติ วันศุกร์ ที่ 11 กรกฎาคม 2568 ความว่า
“มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาจะประสบแต่ความสุขความเจริญด้วยกันทั้งสิ้น ผู้มีปัญญาย่อมทราบดีว่า ความสุขความเจริญย่อมเป็นผลแห่งคุณความดี ส่วนทุกข์โทษทั้งปวงล้วนเป็นผลแห่งความชั่ว ด้วยเหตุนี้ ผู้หวังความเจริญสุขจึงมัก “ทำบุญ” เป็นทุนสำหรับชีวิตที่รุ่งเรืองต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้คนจำนวนไม่น้อย เข้าใจความหมายของบุญอย่างแคบอยู่ในระดับของการให้วัตถุทาน ทั้งที่แท้จริงแล้ว บุญกิริยาวัตถุหรือวิธีการทำบุญตามหลักพระพุทธศาสนานั้น จำแนกได้ถึง 10 ประการ หนึ่งในบุญกิริยาอันมีอานิสงส์ยิ่งใหญ่ และสามารถบำเพ็ญได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องแสวงหาพึ่งพาวัตถุสิ่งของ ได้แก่ สีลมัย คือการทำบุญด้วยการรักษาศีล ดังที่พุทธศาสนิกชนมีหน้าที่ที่จะต้องรักษาศีล 5 เป็นอย่างน้อย
ทั้งนี้ ในเบญจศีลข้อ 5 ก็ปรากฏชัดแจ้งอยู่ว่าบุคคลพึงละเว้นจาก สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐาน ซึ่งแปลว่า สุรา เมรัย และของเมาอื่นๆ อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เพราะฉะนั้น ผู้หวังความสุขความเจริญ จงหมั่นรักษา เบญจศีล อันเป็นคุณธรรมพื้นฐานของกัลยาณปุถุชนไว้เป็นนิจศีล เป็นเครื่องดลบันดาลความเจริญก้าวหน้าในทางธรรม นำไปสู่ความเป็นพระอริยบุคคลระดับขั้นพระโสดาบันได้อีกด้วย
เมื่อวันงดดื่มสุราแห่งชาติเวียนมาถึง ขอท่านทั้งหลายจงสำนึกถึงผลร้ายของการเสพสิ่งมึนเมา แล้วตั้งใจงดเว้นการเสพสิ่งเหล่านั้นให้ได้โดยเด็ดขาด เพื่อเปิดโอกาสให้ตนได้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดขึ้น มีสุขภาวะที่สมบูรณ์พร้อม สามารถใช้เป็นอุปกรณ์กำบังอันตรายในปัจจุบัน และป้องกันความตกต่ำในภายหน้าสืบไป
ขออำนวยพรให้ท่านทั้งหลายจงเจริญในธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงสรุปธรรมทุกข้อลงเป็นคติเตือนไว้ให้ยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ”
