“อัจฉริยะ”ปูเสื่อประจานหน้าสำนักตำรวจแห่งชาติโชว์ผังเว็บพนันออนไลน์

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยการปูเสื่อนั่งประท้วงบริเวณด้านหน้าอาคาร โดยได้นำแผ่นป้ายไวนิลแสดงผังเครือข่ายและรายชื่อเว็บไซต์พนันออนไลน์กว่า 10 เว็บไซต์ มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยอ้างว่าเว็บเหล่านี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ไม่มีการจับกุม

ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ นายอัจฉริยะได้ยื่นข้อเรียกร้องกดดันไปยัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ดังนี้

1. ต้องปิดเว็บพนัน ตามรายชื่อที่ระบุให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ และแถลงผลการจับกุมต่อสาธารณชน

2. ตรวจสอบเส้นทางการเงินและเอกสาร ในคดีสแกมเมอร์ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่งมอบให้ตำรวจ ซึ่งนายอัจฉริยะอ้างว่ามีการ “ดอง” หรือซุกซ่อนพยานหลักฐาน

3. ทบทวนคำสั่งโยกย้ายตำรวจ ที่เขาอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีสแกมเมอร์

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนมาวันนี้มาเพื่อทวงถามถึงเอกสารเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กองคดียาเสพติดส่งหนังสือมายังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. ขอให้ช่วยดําเนินคดีกับ สส. “ช” แต่ตํารวจกลับเอาสํานวนไปซ่อนและยังหาไม่เจอ จึงมาขอให้ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติช่วยดําเนิการ​ นอกจากนี้คือกรณีที่ชุด PCT 4 ลูกน้อง ของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ขนะนั้นได้กลับคําให้การช่วยเหลือ สส. “ช” ส่งผลให้ปัจจุบันยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา จึงขอให้ช่วยเร่งรัดในเรื่องนี้ด้วย

สำหรับ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตํารวจระดับนายพลที่ผ่านมา มีการแต่งตั้งนายตํารวจในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ที่เคยถูกดําเนินคดีในข้อหาเว็บพนันออนไลน์ แม้ก่อนการแต่งตั้งศาลยกฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้วก็ตามซึ่งตนไม่ขอก้าวล่วง แต่หากเปรียบเทียบกับอดีตผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ที่เดินหน้าปราบปรามสแกมเมอร์ แก็งคอลเซ็นเตอร์ บัญชีม้า ตามแนวชายแดนจังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรีและชลบุรีอย่างจริงจังกลับถูกโยกย้ายมาอยู่สํานักงานพิสูจน์หลักฐานแต่ยังถูกใช้งานให้ช่วยดูแลเรื่องปราบสแกมเมอร์อยู่ จึงอยากถามไปยังผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติและ 2 ใน 4 ยอดกุมาร ซึ่งเป็นคณะกรรมการข้าราชการตำรวจที่มีส่วนตัดสินใจในเรื่องนี้ด้วยว่า การแต่งตั้งดังกล่าวนั้นเหมาะสมแล้วหรือไม่ อีกทั้งนายตํารวตคนดังกล่าวยังมีความสนิทสนมกับเสี่ย “อ” เจ้าพ่อที่ดูแลสแกมเมอร์ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีอีกด้วย

นอกจากนี้ได้ชูหลักฐานที่ตํารวจจับกุม สส. “ช” พร้อมยึดทรัพย์รถซุปเปอร์คาร์ที่มี 100 คันทั่วโลก แต่ปัจจุบันไม่รู้ว่าของกลางทั้งหมดนั้นอยู่ที่ไหน รวมถึงเว็บพนันที่ถูกจับของ สส. “ช” และ สส. พรรคการเมืองชื่อดังจํานวนมากยังเปิดให้เล่นได้อยู่ จึงขอท้าไปยัง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ให้ออกมาดีเบตกับตนเองต่อหน้าสื่อมวลชน

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ตนให้เวลาผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ถึงวันอาทิตย์นี้เพื่อดําเนินการปิดเว็บพนันทั้งหมดที่เคยถูกจับกุมและยังเปิดอยู่ หากในวันจันทร์พบว่ายังเปิดให้เล่นได้อยู่นั้น ตนเองจะลงไปนั่งเรียกร้องกลางถนนหน้าสํานักงานตํารวจแห่งชาติอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า นายอัจฉริยะ ทํางานควบคู่กับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติหรือไม่ นายอัจฉริยะ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ทํางานคู่กับ “บิ๊กโจ๊ก” เพราะไม่เห็นด้วยหลายเรื่องที่ทํา เช่นการใช้อามรมณ์ในห้องประชุมคณะกรรมมาธิการความมั่นคงฯและการแต่งตั้งนอกวาระเพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจด้วย