เมื่อวันที่ 7 กันยายน“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความคาดหวังต่อนายกรัฐมนตรีคนที่ 32” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,191 คน ระหว่างวันที่ 2–5 กันยายน 2568 พบว่า ภารกิจด่วนที่สุดที่ประชาชนอยากให้นายกรัฐมนตรีใหม่เร่งแก้ คือ ปัญหาค่าครองชีพและปากท้อง ร้อยละ 68.26
ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ อยู่เพียงระดับปานกลาง ร้อยละ 56.09 ส่วนประชาชนกว่า 3 ใน 4 (76.66%) เห็นด้วย หากรัฐบาลใหม่ประกาศยุบสภาภายใน 4 เดือน เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ สิ่งที่อยากฝากถึงผู้นำประเทศมากที่สุดคือ ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ ร้อยละ 53.81
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ชี้ว่า ไม่ว่านายกฯ จะเป็นใคร ความท้าทายใหญ่ที่สุดยังคงเป็นเรื่องเศรษฐกิจและความน่าเชื่อถือทางการเมือง การยุบสภาที่ถูกเรียกร้องสะท้อน “วิกฤตศรัทธา” ต่อวาทกรรมทางการเมือง นายกฯ คนใหม่จึงต้องทำงานอย่างโปร่งใส ซื่อสัตย์ และรักษาสัญญาที่ให้ไว้
ด้าน ผศ.ดร.เบญจพร พึงไชย อาจารย์มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิเคราะห์ว่า ผลสำรวจสะท้อนว่าประชาชนยังคงให้โอกาสนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำคือ แก้ปัญหาปากท้องอย่างเป็นรูปธรรม วางยุทธศาสตร์เศรษฐกิจระยะยาว และสร้างความเชื่อมั่นด้วยการบริหารงานโปร่งใส รวมถึงเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา เพราะทั้งหมดคือบททดสอบใหญ่ของ “ครม.อนุทิน 1” ที่สังคมกำลังจับตา
