
จากสถานการณ์ที่ประชาชนทั่วประเทศพร้อมใจกันร่วมถวายความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ส่งผลให้ความต้องการชุดดำและเสื้อผ้าโทนไว้ทุกข์พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน (DIT) จึงได้ออกโรงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้าอย่างเด็ดขาด

อธิบดี DIT ยืนยัน: สินค้าพอ-ราคาปกติ หลังโรงงานพร้อมผลิต
นายวิทยากร เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจติดตามร้านค้าปลีกจำหน่ายชุดและเสื้อผ้าดำย่านท่าน้ำนนท์ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ว่า ตามคำสั่งของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายในได้ดำเนินการประสานกับโรงงานผู้ผลิตรายใหญ่และเช็คสต๊อกกับห้างค้าส่งค้าปลีกทันทีตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา
“แม้ช่วงแรกโรงงานผู้ผลิตอาจมีความขลุกขลักเล็กน้อย แต่ขณะนี้สถานการณ์มีความพร้อมแล้ว ส่วนห้างโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ก็มีสต๊อกสินค้าพร้อมจำหน่ายให้แก่ประชาชน” นายวิทยากรกล่าว
นอกจากนั้น DIT ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดมสายตรวจลงพื้นที่แหล่งค้าส่งขนาดใหญ่ เช่น ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ สำเพ็ง พาหุรัด และล่าสุดที่ท่าน้ำนนท์ จังหวัดนนทบุรี ผลการตรวจสอบพบว่า สินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการ และราคาโดยรวมยังอยู่ในระดับปกติ โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน

เตือนภัยผู้ค้าออนไลน์: โทษสูงสุดคุก 7 ปี ไม่ป้ายราคา ปรับ 10,000
อธิบดี DIT ได้กล่าวถึงข้อร้องเรียนของประชาชนบางส่วนเกี่ยวกับความแตกต่างของราคาส่ง-ราคาปลีก และราคาซื้อจำนวนมาก-จำนวนน้อย ซึ่งเป็นไปตามกลไกการค้าปกติ แต่ได้กำชับให้ผู้ประกอบการต้องแสดงราคาจำหน่ายทุกประเภทอย่างโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนสามารถตัดสินใจได้อย่างเป็นธรรมที่สุด
นอกจากนี้ ในช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ กรมฯ ได้จัดตั้ง “ชุดติดตามพิเศษ” เพื่อกำกับดูแลไม่ให้มีการใช้คำโฆษณาที่หลอกลวง หรือบอกราคาที่ไม่เป็นจริง โดยได้ย้ำเตือนผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด:
- ไม่ปิดป้ายแสดงราคา: มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท (มาตรา 28)
- ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสูงเกินสมควร (โก่งราคา): เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมรับ “คนละครึ่ง พลัส” DIT ผนึกร้านธงฟ้ากว่า 1,500 แห่ง จัดอาหารลดราคา
นายวิทยากร ยังเปิดเผยถึงมาตรการคู่ขนานเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยกรมการค้าภายในได้เตรียมความพร้อมรองรับโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ที่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค. 68) และได้ขอความร่วมมือร้านจำหน่ายชุดดำทุกรายให้ งดปรับขึ้นราคา หลังเริ่มโครงการดังกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีแผนประสานร้านอาหารธงฟ้ากว่า 1,500 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้มีเมนูอาหารราคาประหยัดจำหน่ายแก่ประชาชน โดยกรมฯ จะเข้าไปสนับสนุนวัตถุดิบสำคัญ เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และผักสด เพื่อช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายอาหารคุณภาพดีในราคาพิเศษได้ต่อเนื่อง

“กรมการค้าภายในจะเดินหน้ามาตรการเชิงรุกทุกด้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่ารัฐบาลดูแลทุกมิติของค่าครองชีพอย่างแท้จริง และจะไม่ยอมให้มีการฉวยโอกาสทางการค้าในช่วงเวลาที่คนไทยกำลังร่วมแสดงความอาลัยของแผ่นดิน” นายวิทยากรกล่า
ประชาชนที่ซื้อสินค้าแล้วไม่ได้คุณภาพ ไม่ตรงปก หรือพบเห็นการเอาเปรียบด้านราคา สามารถแจ้งสายด่วน 1569 ของกรมการค้าภายในได้ทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด