
เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่กระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตอธิบดีกรมที่ดิน แถลงข่าวกรณีการดำเนินการกับที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากที่กระทรวงมหาดไทยยุคนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง กรมที่ดิน ซึ่งคณะกรรมการมีมติให้กรมที่ดินเดินหน้าเพิกถอนโฉนดว่า กรมที่ดินได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นว่า ที่ผ่านมากรมที่ดินได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว ทั้งตามคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ ภาค 3 คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ประกอบกับปัจจุบันการรถไฟฯ ก็ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางแล้ว ดังนั้นทุกฝ่ายจึงควรรอผลคำพิพากษาของศาล อันจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้รับหลักประกันความเป็นธรรมตามกระบวนการจากองค์กรตุลาการที่ได้รับการยอมรับ อย่างไรก็ตาม หากการรถไฟฯ เห็นว่ามีสิทธิในที่ดินดีกว่า ก็ไม่ตัดสิทธิการรถไฟฯ ที่จะไปใช้สิทธิทางศาลยุติธรรม
ทั้งนี้ กรมที่ดินได้ชี้แจงว่า ตามที่สื่อมวลชนให้ความสนใจในประเด็นการดำเนินการกับที่ดินบริเวณเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์และกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณี ไม่เพิกถอนโฉนดที่ดิน บริเวณเขากระโดง กรมที่ดิน ขอสรุปประเด็นเพื่อชี้แจง ดังนี้

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์
1. ตามคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ ภาค 3 กรมที่ดินได้ดำเนินการแล้ว ดังนี้
1.1 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842 – 876/2560 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักงานที่ดิน จังหวัดบุรีรัมย์ดำเนินการยกเลิกคำขอออกโฉนดที่ดินของราษฎร จำนวน 35 ราย ที่ฟ้องคดี พร้อมทั้งจำหน่าย ส.ค. 1ออกจากทะเบียนการครอบครองที่ดินแล้ว
1.2 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 อธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่งให้แก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ใน น.ส. 3 ข. เลขที่ 200 หมู่ที่ 9 ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ (บางส่วน) ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แล้ว
1.3 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563 ลงวันที่ 22 เมษายน 2563 สำนักงานที่ ดินจังหวัดบุรีรัมย์ดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ ดินและหนังสือรับรองการทำประโยชน์ รวม 3 ฉบับ ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 แล้ว ดังนั้น กรมที่ดินจึงได้ดำเนินการตามคำพิพากษาศาลทั้งสามคดีครบถ้วนแล้ว

นายพรพจน์ เพ็ญพาส
2. ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2566 ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อดำเนินการกับที่ดินแปลงอื่น จำนวน 995 แปลง ที่อยู่ในบริเวณที่การรถไฟฯ อ้างสิทธิ ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯตามคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว
ข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจนเป็นที่ยุติว่าที่ดินเป็นของการรถไฟฯ และการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่เขากระโดงเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงมีความเห็นไม่สมควรเพิกถอนโฉนดที่ดิน อธิบดีกรมที่ดินได้พิจารณาความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนฯแล้วเห็นชอบด้วย จึงมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง
การรถไฟฯ จึงได้อุทธรณ์คำสั่งยุติดังกล่าว ซึ่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน พิจารณาแล้วเห็นว่าคำสั่งยุติเรื่องของอธิบดีกรมที่ดินชอบด้วยกฎหมายจึงยกอุทธรณ์ของการรถไฟฯ และกรมที่ดินได้แจ้งสิทธิการฟ้องคดีให้การรถไฟฯ ทราบแล้ว
3. เนื่องจากคำสั่งให้ยุติเรื่องตามข้อ 2 การรถไฟฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดให้เรียกอธิบดีกรมที่ดินมาไต่สวน เนื่องจากเห็นว่าอธิบดีกรมที่ดินยังดำเนินการไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่ออธิบดีกรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ จึงเป็นการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางแล้ว ส่วนการรังวัดหาแนวเขตที่ดินของการรถไฟฯ เป็นเพียงข้อแนะนำของศาล ซึ่งกรมที่ดินก็ได้ดำเนินการแล้วเช่นกัน แต่หากการรถไฟฯ เห็นว่าอธิบดีกรมที่ดินดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ถูกต้องตามคำพิพากษา การรถไฟฯ ก็ชอบที่จะยื่นเป็นคำร้องต่อศาลปกครองชั้นต้นที่ได้พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดี ซึ่งเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณามีคำสั่งหรือไต่สวน ศาลปกครองสูงสุดจึงยกคำร้องของการรถไฟฯ

นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี
4. การรถไฟฯ จึงได้ฟ้องกรมที่ดิน อธิบดีกรมที่ดินและปลัดกระทรวงมหาดไทย ต่อศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งยุติเรื่องและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ซึ่งขณะนี้ศาลได้รับคำฟ้องไว้พิจารณาและอยู่ระหว่างกรมที่ดินทำคำให้การต่อสู้คดี
5. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายเดชอิศม์ ขาวทอง) ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินกรณียุติเรื่อง ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบฯ เห็นว่า อธิบดีกรมที่ดินยังดำเนินการไม่ครบถ้วนก่อนการมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง จึงเห็นควรให้อธิบดีกรมที่ดินทบทวนคำสั่งยุติเรื่องดังกล่าว
กรมที่ดิน พิจารณาแล้วขอเรียนว่า ที่ผ่านมากรมที่ดินได้ดำเนินการครบถ้วนแล้วทั้งตามคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ ภาค 3 คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ประกอบกับปัจจุบันการรถไฟฯ ก็ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางตามข้อ 4 แล้ว ทุกฝ่ายจึงควรรอผลคำพิพากษาของศาล อันจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้รับหลักประกันความเป็นธรรมตามกระบวนการจากองค์กรตุลาการที่ได้รับการยอมรับ อย่างไรก็ตามหากการรถไฟฯ เห็นว่าตนมีสิทธิในที่ดินดีกว่า ก็ไม่ตัดสิทธิการรถไฟฯ ที่จะไปใช้สิทธิทางศาลยุติธรรม

