เมื่อวันที่ 15 กันยายน เวลา 10.35 น. ที่เรือนจำกลางคลองเปรม กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.พิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ซึ่งทางเรือนจำเปิดให้เยี่ยมได้เป็นวันแรก โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ระหว่างออกจากเรือนจำ น.ส.แพทองธารและน.ส.พิณทองทาได้ประคองคุณหญิงพจมานขึ้นรถ โดยคุณหญิงพจมานก้มหน้าตลอดทาง และพยักหน้าตอบเพียงสั้น ๆ เมื่อถูกถามถึงอาการกำลังใจของนายทักษิณ
ขณะที่ บรรยากาศด้านหน้าเรือนจำเป็นไปอย่างคึกคัก มีกลุ่มคนเสื้อแดงมายืนให้กำลังใจ บุตรสาวทั้งสองได้เข้าไปสวมกอด พร้อมกล่าวขอบคุณ ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การเยี่ยมใช้เวลาราว 30 นาที ผ่านกระจกใส โดยไม่ได้สัมผัสตัวกัน แต่ได้พูดคุยและให้กำลังใจกันเต็มที่
“คุณพ่อเข้มแข็งมากกว่าที่เราคิด แม้จะมีเครียดบ้างจนความดันขึ้น ๆ ลง ๆ แต่ท่านยังมีกำลังใจดี และยังให้กำลังใจพวกเราด้วย ครอบครัวก็ห่วงสุขภาพท่าน แต่เชื่อว่าคุณพ่อเข้มแข็งกว่าพวกเราอีก” น.ส.แพทองธารกล่าว พร้อมเผยว่า การได้เห็นคุณพ่อคุณแม่เจอกันอีกครั้งหลังห่างกันถึง 17 ปี แม้เพียงผ่านกระจก ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความหมาย
นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ยังเล่าว่า ผู้คุมเล่าให้ฟังว่า มีประชาชนแวะมาทานก๋วยเตี๋ยวแถวหน้าคลองเปรม พร้อมส่งกำลังใจถึงนายทักษิณว่า “มาทานพร้อมท่าน” ซึ่งทำให้นายทักษิณซาบซึ้งใจ และฝากขอบคุณทุกแรงสนับสนุน
สำหรับ การช่วยงานภายในเรือนจำ ขณะนี้ยังไม่มี เนื่องจากเพิ่งพ้นช่วงกักตัว แต่ผู้ต้องขังคนอื่น ๆ มองว่านายทักษิณอาจแบ่งปันประสบการณ์ได้ เพราะชอบอ่านหนังสือและสอนผู้อื่น
เมื่อถามถึงการพิจารณาลดโทษตามเกณฑ์ผู้สูงอายุ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนกรณีผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงราย เขต 7 ที่พรรคเพื่อไทยชนะ นายทักษิณเพียงบอกว่า “ดีใจด้วย”
เมื่อถามว่าจะมาเยี่ยมอีกหรือไม่ น.ส.แพทองธารย้ำชัดว่า “แน่นอนค่ะ”
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเข้าเยี่ยม นายทักษิณ พร้อมกับครอบครัว ว่า วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไร เนื่องจากเป็นวันแรกที่เรือนจำเปิดให้เข้าเยี่ยมหลังคุมขังมา 7 วัน เลยยังไม่ได้ทำอะไร เป็นการต้องขังปกติ ไม่มีสิทธิพิเศษอยู่ในแดนผู้สูงอายุ ซึ่งท่านก็มีโรคประจำตัว และมีความดัน ความเครียดบ้างตามประสาคนสูงอายุ ซึ่งท่านก็พยายามดูแลตัวเอง
“ยืนยนว่าท่านมีโรคประจำตัว ใครไม่เชื่อก็เรื่องของเขา แต่เรื่องความดันและเรื่องความเครียดก็มีปกติของคนแก่ ซึ่งท่านก็พยายามดูแลตัวเองและควบคุมอยู่”
นายวิญญัติ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการยื่นของคุมขังนอกเรือนจำว่าขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา เนื่องจากมีเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์อยู่ เมื่อถึงเวลาราชทัณฑ์ต้องพิจารณา เรายังไม่ทำอะไร เพราะมีเรื่องของมาตรฐานขั้นต่ำก่อนถึงจะมีการพิจารณาได้ ส่วนเรื่องความปลอดภัยของท่านเป็นเรื่องหลักผู้ต้องขังไม่ต้องร้องขอ ผบ.เรือนจำต้องดูอยู่แล้ว ท่านเป็นอดีตนายกฯต้องดูแลเรื่องคววมปลอภัยต่อชีวิตของท่าน ไม่ได้มีห้องพิเศษสำหรับท่าน เป็นไปตามระเบียบทุกอย่าง การเยี่ยมก็เป็นไปตามระเบียบ แต่ตนไม่ได้เข้าไปในเรือนนอน ยืนยันว่าเยี่ยมแบบไหนก็ไปเยี่ยมแบบนั้น
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า การคุยกันเราคุยกัยเรื่องงาน ถามสารทุกข์สุขดิบ ตนบอกว่าคนเสื้อแดงมาให้กำลังใจ ท่านก็บอกว่าขอบคุณและถามว่ามาทุกวันเลยหรอ ส่วนเรื่องมีคนที่ไปปล่อยข่าวเรื่องกัมพูชา ยืนยันฟ้องแน่นอน เพราะเป็นเรื่องเท็จ ใจเย็นๆ ฟ้องแน่และเรื่องนั้นท่านไม่กังวลส่วนเรื่องทรัพย์สินเป็นเรื่องครอบครัว ไม่ก้าวล่วง
นายวิญญัติ กล่าวว่า ถ้าไม่ติดภารกิจตนจะมาเยี่ยมท่านทุกวัน ครอบครัวท่านไม่ได้ขออะไรเป็นพิเศษ ท่านไม่ได้เรียกร้องอะไรเกินกว่าผู้ต้องขังจะได้สิทธิ ใครอยากพูดอะไรก็พูดไป แต่ให้รับผิดชอบคำพูดด้วย เราแค่ให้ท่านสุขภาพดีเท่านั้น จขอให้ทุกท่านคิดถึงสิ่งที่ท่านทำมา ท่านเป็นอดีตนายกฯ ท่านต้องปลอดภัย ดูแลให้ท่านมีความปลอดภัย ทุกลมหายใจท้านก็เรื่องปบ้านเมือง ท่านเป็นห่วง ท่านคุยกับครอบครัวท่านแต่คุยอะไรบ้างไม่รู้