
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ประกาศขึ้นทะเบียน “กกเหล่าพัฒนา” เป็น สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ของประเทศไทย และเป็นสินค้า GI ลำดับที่ 4 ของจังหวัดนครพนม ต่อจากเส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน สับปะรดท่าอุเทน และลิ้นจี่นครพนม

การขึ้นทะเบียนครั้งนี้ นอกจากจะช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นแล้ว ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์จากต้นกกที่ชาวบ้านผลิตกันมายาวนานกว่า 80 ปี โดยคาดว่าจะสามารถยกระดับรายได้ของชุมชนผู้ผลิตจากเดิมปีละกว่า 6 ล้านบาทให้เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่สินค้า GI ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนก่อนหน้านี้ในจังหวัดนครพนม สร้างรายได้รวมกันกว่า 60 ล้านบาทต่อปี

“กกเหล่าพัฒนา” เป็นผลิตภัณฑ์จากต้นกกที่ปลูกในพื้นที่ตำบลเหล่าพัฒนาและตำบลบ้านเสียว อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มและดินร่วนปนทรายเหมาะกับการเติบโตของกก ส่งผลให้ได้เส้นกกที่อวบ แข็งแรง มันวาว และเหนียวกว่าทั่วไป เมื่อนำมาทอเป็นเสื่อหรือผลิตภัณฑ์จักสาน จึงมีคุณภาพดี แข็งแรง และมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์

กกเหล่าพัฒนาเริ่มปลูกในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2484 ก่อนพัฒนาเป็น “กลุ่มสตรีทอเสื่อกก” ในปี 2517 และขยายเป็น “วิสาหกิจชุมชนสหกรณ์จักสานเส้นกกบ้านเหล่าพัฒนา” ปัจจุบันมีผู้ประกอบการกว่า 234 ราย ผลิตและจำหน่ายสินค้าหลากหลาย เช่น เสื่อ กระเป๋า หมวก แจกัน และของตกแต่งบ้าน รวมมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 6 ล้านบาทต่อปี

ด้วยคุณภาพและเอกลักษณ์เฉพาะตัว กกเหล่าพัฒนาได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในปี 2565 กระเป๋าเสื่อกกเหล่าพัฒนาได้รับเลือกให้เป็นของที่ระลึกสำหรับผู้นำระดับโลกในที่ประชุม APEC 2022 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ผลักดันสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยให้เฉิดฉายบนเวทีโลก
กรมทรัพย์สินทางปัญญายังมีแผนส่งเสริมต่อยอดสินค้า GI ไทยภายใต้นโยบายของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผ่านการสร้างระบบควบคุมคุณภาพและตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) รวมถึงผลักดันการขึ้นทะเบียน GI ในต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสทางการค้า และเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม–เศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้ชุมชนทั่วประเทศ

