
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี, พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์, พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ร่วมกันแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติเมียนมา 3 ราย โดยจับกุมได้ บริเวณบ้านพัก ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ กก.3 บก.ปอท. ว่า ถูกมิจฉาชีพใช้เพจเฟซบุ๊ก การลงทุนเทรดหุ้น ชักชวนให้เข้ากลุ่ม Line ซึ่งมีสมาชิกจำนวนมาก
จากนั้น จะมีหน้าม้าในกลุ่มคอยแจ้งว่า สามารถเทรดได้กำไรและถอนเงินได้จริง โดยผู้เสียหายใช้เวลาในการดูในกลุ่มอยู่ประมาณ 2-3 เดือน ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยแอดมินกลุ่มจะให้เข้ากลุ่ม VIP และติดต่อผ่าน Line Officail ก่อนที่จะให้โหลดแอปพลิเคชันปลอม ชื่อ Ulela Max และโอนเงินเพื่อลงทุนเทรดหุ้น โดยจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 10 %

ช่วงแรกๆ ผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีม้านิติบุคคลหลักแสนบาท พบว่า สามารถถอนเงินพร้อมกำไรได้จริง จึงได้โอนเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้านบาทอีกหลายครั้ง ไปยังบัญชีม้านิติบุคคล จำนวน 4 บัญชี และ บัญชีม้าบุคคล จำนวน 8 บัญชี รวม 18 ครั้ง เป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท โดยใช้เวลาในการโอนและลงทุนดังกล่าวกว่า 2 เดือน ก่อนจะรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกและไม่สามารถถอนเงินได้ จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท.
จากการสืบสวนรวบรวมข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้ทำการสืบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่า หลังจากที่บัญชีม้าต่างๆได้รับเงินแล้ว จะมีการเปลี่ยนเงินผ่านแพลตฟอร์มของไทย จากนั้นจะโอนกลับไป กลับมาเพื่อให้ยากต่อการติดตาม โดยพบว่าบัญชีม้าทั้งหมดมีการทำรายการที่ตึกออฟฟิศในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา และมีการโอนไปยัง Wallet ของ Huione Pay ของประเทศกัมพูชาเพื่อฟอกเงิน ก่อนจะถูกโอนต่อไปยัง Wallet ของผู้รับผลประโยชน์อีกจำนวนหลาย Wallet ก่อนจะโอนมาให้กับกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้ที่เป็นชาวเมียนมา รวมถึงมีการเปลี่ยนเป็นเงินสดผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ และExchange ของไทย เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดเข้าบัญชีธนาคารไทยของกลุ่มผู้ต้องหา และไปถอนเงินสดที่ธนาคารในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก วันละประมาณ 20-30 ล้านบาท

เมื่อถอนเงินแล้วจะนำเงินสดให้ชายเมียนมา ขนข้ามชายแดนบริเวณด่าน ตม.แม่สอด ไปส่งยังฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการถอนเงินสดกว่าเดือนละ 1,000 ล้านบาท ตำรวจ บก.ปอท. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้รวม 28 คน โดยเป็นกลุ่มบัญชีม้า จำนวน 24 คน และ ชาวเมียนมา ผู้รับผลประโยชน์จำนวน 4 คน
จากนั้น ตำรวจได้นำหมายค้นศาลจังหวัดแม่สอด ที่ 1165/2568 เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย ผลการตรวจค้น ได้จับกุมผู้ต้องหาชาวเมียนมาจำนวน 3 ราย และตรวจยึดเงินสดของกลางจำนวนรวมกว่า 46 ล้านบาท นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น
- ร่วมกันเป็นอั้งยี่
- โดยทุจริตหรือหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
- สมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน
- ร่วมกันฟอกเงิน