ยายนกแก้วน้ำตาคลอมีบัตรประชาชนครั้งแรกของชีวิตในวัย 70 ปี

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่สำนักทะเบียนอำเภอเมืองนครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้พา คุณยายนกแก้ว จุ้ยเจริญ อายุ 70 ปี และนายพัฒนะ จุ้ยเจริญ อายุ 51 ปี ลูกชาย เข้าพบกับ ดร.อภิชา ไชยพรชลิดา นายอำเภอเมืองนครปฐม เพื่อเข้ากระบวนการทำบัตรประจำตัวประชาชน เป็นใบแรกในชีวิต โดยมี นางรักษญาณ์ เผ่าผาง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเกาะวังไทร นางอำพ ลิ้มประสาท ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดไผ่ล้อม นางสาวพรรณี สอดสุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลถนนขาด และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมลงนามในการรับรองบุคคล ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น

ช่วงที่ คุณยายนกแก้ว อายุ 70 ปี รับบัตรประจำตัวประชาชนจากมือของ ดร.อภิชา ไชยพรชลิดา นายอำเภอเมืองนครปฐม ถึงกับหลั่งน้ำตาและยกมือไหว้ด้วยความดีใจ โดยได้กล่าวขอบคุณที่ทำให้ฝันได้กลายเป็นจริง โดยมี นางนฤมล โพธิ์ทองนาค ปลัดอำเภอ นางสาววิรัลพัชร ไทยคำ ปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่รวมถึงพยานที่มาลงนามรับรองยืนยันบุคคล ต่างแสดงความยินดีและให้กำลังใจกับคุณนายนกแก้วให้ต่อสู้ชีวิตในยามบั้นปลายในการเข้ารับสิทธิในการรักษาดวงตาทั้ง 2 ข้างเพื่อความหวังในการมองเห็น

ดร.อภิชา ไชยพรชลิดา นายอำเภอเมืองนครปฐม กล่าวว่า เรื่องของคุณยายนกแก้ว ได้รับการประสานงานจากหลวงพี่น้ำฝน ท่านได้ไปพบกับคุณยายนกแก้ว เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นและพบปัญหาคือดวงตานั้นมองไม่ได้แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญคือการไม่เคยมีบัตรประจำตัวประชาชน มาก่อนเลย จึงไม่มีฐานทะเบียนในการรับสิทธิและสวัสดิการสำหรับประชาชนคนไทยที่พึงควรได้รับ การดำเนินการเรื่องของคุณยายนกแก้ว ค่อนข้างจะยากเนื่องจากมีเอกสารเพียงใบเดียว คือ ใบสุทธิการจบการศึกษาเท่านั้น แต่การสอบหาความเชื่อมโยงแทบไม่พบว่าจะเชื่อมโยงกับใครได้บ้าง

ทั้งนี้ การค้นหาที่ดีที่สุดคือการตรวจหาดีเอ็นเอ แต่ในกรณีของคุณยายนกแก้วลูกชายได้แจ้งครั้งแรกกับ เจ้าหน้าที่ว่า คุณยายนกแก้วเป็นพี่สาว เอกสารได้ระบุแจ้งไว้อย่างนั้นตั้งแต่แรก ซึ่งเมื่อมาสืบถามเพิ่มเติมก็พบว่าเจ้าตัวก็เพิ่งทราบมาไม่นานว่าคุณยายนกแก้วที่แท้เป็นแม่ของตัวเอง เนื่องจากได้เติบโตมาจากการเลี้ยงดูของคุณตาคุณยาย จากนั้นได้มีการสอบประวัติไปยังหลายจุด กระทั่งมีความมั่นใจ จากพยานบุคคลทั้งหมดรวมถึงได้ได้รับความร่วมมือจากผู้อำนวยการโรงเรียนทั้งสองแห่ง ผู้นำชุมชน รวมถึงตัวของหลวงพี่น้ำฝนก็ได้ลงนามรับรับรองในความเป็นบุคคลจึงทำให้สามารถแจ้งเพิ่มเติมรายชื่อของคุณยายนกแก้วเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านได้ และได้ดำเนินการออกบัตรประจำตัวประชาชนให้โดยในรูปแบบของการเพิ่มชื่อลงเพิ่มเติม โดยจะมีตัวเลขด้านหน้าระบุขึ้นด้วยเลข 5 ซึ่งต้องขอชื่นชมความตั้งใจของหลวงพี่น้ำฝนและผู้ที่ประสานงานให้คุณยายนกแก้ว มีบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกในชีวิตในวัย 70 ปี

ด้าน นายสมชาติ สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ ซึ่งเป็นคนใจบุญในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งในการเก็บข้อมูลดีเอ็นเอของคุณยายนกแก้ว และ สมทบทุนในการจัดหาเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันเบื้องต้น ได้บอกว่า ในฐานะที่เป็นคนไทยแล้วก็เป็นชาวพุทธได้เห็นว่าหลวงพี่น้ำฝนได้ทำงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือญาติโยมมาอย่างต่อเนื่อง ตนเองในฐานะที่เป็นคนชอบทำบุญเมื่อเห็นแล้วก็รู้สึกว่าถ้าเรามีความพร้อมกว่าก็จำเป็นที่จะต้องยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะถือว่าเป็นคนไทยจะต้องมีจิตใจโอบอ้อมอารีและช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งมีความจำเป็นมากในสังคมไทยทุกวันนี้

สำหรับ เรื่องราวของคุณยายนกแก้ว ได้ถูกเปิดเผยขึ้นหลังจากลูกศิษย์ของหลวงพี่น้องฝนได้ประสานงานเข้ามาว่ามีหญิงชราตาพิการต้องการความช่วยเหลือในการรับเครื่องใช้ชีวิตประจำวัน หลวงพี่น้ำฝนจึงได้ลงพื้นที่ไปยังพื้นที่หมู่ที่ห้าตำบลถนนขาด อำเภอเมืองนครปฐม พบว่าคุณยายนกแก้วนั้นได้อยู่กับนายพัฒนะ ลูกชายเพียงลำพังที่ริมบ่อเลี้ยงปลาซึ่งเป็นที่ดินของนายจ้างของนายพัฒนะ และพบว่า มีปัญหาในการเข้ารับสิทธิ์ในการรักษาเนื่องจากไม่เคยมีบัตรประจำตัวประชาชนมาก่อน ซึ่งก่อนหน้าได้มีการนำตรวจดวงตาทั้งสองข้างพบว่า เข้าลักษณะเป็นผู้พิการทางสายตา จากสภาวะต้อหินและระบบประสาทเนื่องจากเคยประสบอุบัติเหตุถูกรถชนมาก่อนหน้า และยังไม่เคยได้เข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง จึงได้นำไปตรวจเบื้องต้นที่โรงพยาบาลนครปฐมและพบปัญหาดังกล่าว

จากนั้น ได้ประสานในเมืองนครปฐมเรื่องการขอมีบัตรประจำตัวประชาชน จึงได้มีการดำเนินการเก็บข้อมูลทางดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลศิริราชและสืบค้นประวัติจากเอกสารและพยานบุคคลที่มีทั้งหมดกระทั่งนำมาซึ่งการได้รับสิทธิในการออกบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับประชาชนไทย ในการเข้าถึงสวัสดิการการรักษา สิทธิรับยาผู้สูงอายุ สิทธิรับเบี้ยคนพิการ และสวัสดิการของรัฐตามนโยบาย

หลังจากนี้หลวงพี่น้ำฝนจะได้ นำไปตรวจ คุณภาพของดวงตาอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาเป็นความหวังที่อาจจะทำให้คุณยายนกแก้วได้ได้มีโอกาสเห็นอีกครั้ง และสามารถรับสิทธิ์การรักษาทางด้านสุขภาพอื่นๆรวมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้ได้ใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายวัยชราตามสิทธิ์ที่ควรจะเป็นไปได้

ภาพ/ข่าว : กิตติพงษ์ จันทร์ละมูล ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครปฐม