โพลชี้ประชาชนสับสนมากบัตรลงคะแนน 4 ใบ 6 คำถามจะไม่ไหวเอา

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “บัตรลงคะแนน 4 ใบ 6 คำถาม จะไหวไหม” เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนต่อบัตรลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

จากการสำรวจเมื่อถามความสับสนเกี่ยวกับบัตรลงคะแนน 4 ใบ รวม 6 คำถาม (บัตรเลือก สส. ระบบเขตเลือกตั้งหนึ่งใบ, บัตรเลือก สส. ระบบบัญชีรายชื่อหนึ่งใบ, บัตรลงคะแนนประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหนึ่งใบสองข้อ, บัตรลงคะแนนประชามติเรื่องการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 หนึ่งใบ สองข้อ, ในการเลือกตั้งครั้งหน้าของประชาชนทั่วไป พบว่า 

ตัวอย่างร้อยละ 48.55 ระบุว่า สับสนมาก 

รองลงมา ร้อยละ 30.61 ระบุว่า ค่อนข้างสับสน 

ร้อยละ 11.99 ระบุว่า ไม่สับสนเลย 

และร้อยละ 8.85 ระบุว่า ไม่ค่อยสับสน

ด้านความสับสนเกี่ยวกับบัตรลงคะแนน 4 ใบ รวม 6 คำถาม ในการเลือกตั้งครั้งหน้าของตนเอง พบว่า 

ตัวอย่าง ร้อยละ 34.73 ระบุว่า ไม่สับสนเลย 

รองลงมา ร้อยละ 26.80 ระบุว่า สับสนมาก 

ร้อยละ 23.36 ระบุว่า ค่อนข้างสับสน 

และร้อยละ 15.11 ระบุว่า ไม่ค่อยสับสน

สำหรับความเพียงพอของระยะเวลา 4 เดือน ภายใต้รัฐบาลนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ในการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งและสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 พบว่า 

ตัวอย่าง ร้อยละ 30.23 ระบุว่า ไม่เพียงพอเลย 

รองลงมา ร้อยละ 24.43 ระบุว่า เพียงพอแน่นอน 

ร้อยละ 22.14 ระบุว่า ค่อนข้างเพียงพอ 

ร้อยละ 20.53 ระบุว่า ไม่ค่อยเพียงพอ 

และร้อยละ 2.67 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดให้มีการเลือกตั้ง สส. การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการทำประชามติยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 ในวันเดียวกัน พบว่า 

ตัวอย่าง ร้อยละ 49.16 ระบุว่า เห็นด้วยที่จะมีการดำเนินการทั้งหมดในวันเดียวกัน 

รองลงมา ร้อยละ 26.11 ระบุว่า ควรแยกการดำเนินทั้งสามเรื่องเป็นคนละวันกัน 

ร้อยละ 12.60 ระบุว่า ควรแยกเฉพาะการลงคะแนนเลือกตั้ง สส. ออกไปอีกวัน 

ร้อยละ 5.42 ระบุว่า ควรแยกเฉพาะการทำประชามติเรื่องการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 ออกไปอีกวัน 

ร้อยละ 3.89 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ 

และร้อยละ 2.82 ระบุว่า ควรแยกเฉพาะการทำประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกไปอีกวัน