
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมด้วยรองอธิบดี และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อตรวจติดตามการเตรียมความพร้อมการฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ด้านสาธารณภัย ประจำปี พ.ศ. 2568 (Crisis Management Exercise :C-MEX25) จากคลื่นสึนามิ ในวันที่ 27 มิถุนายน 2568 โดยได้ประชุมร่วมกับนายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา -หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ พร้อมทั้งได้ลงตรวจสถานที่ที่ใช้ในการฝึกซ้อมบริเวณหาดนพรัตน์ธารา และโรงเรียนบ้านคลองแห้ง ซึ่งใช้เป้นสถานที่พักพิงชั่วคราว


นายภาสกร กล่าวว่า การฝึกซ้อมแผน C-MEX 25 มีความสำคัญในระดับชาติในการที่จะบริหารสถานการณ์ในภาวะวิกฤตซึ่งสาธารณภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีความรุนแรงเป็นตามลำดับและคาดเดาได้ยาก เพราะฉะนั้นการซ้อมแผนจึงเป็นเรื่องสำคัญ การที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงมาติดตามสถานการณ์แล้วจะซ้อมแผนทั้ง 6 จังหวัดอันดามัน ก็มีความสำคัญเนื่องจากว่า เรื่องสึนามิที่ผ่านมาเมื่อปี 2547 สร้างความสูญเสียในเรื่องของชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากในขณะนั้นเรายังขาดองค์ความรู้ทั้งในระดับพื้นฐานตั้งแต่โรงเรียนเป็นต้นมา พี่น้องประชาชนของเราไม่มีความรู้เรื่องสึนามิมาก่อนเลย ทำให้เกิดการสูญเสียจำนวนมาก

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันก็ 20 ปีแล้ว ถึงแม้จังหวัดอาจจะมีการซ้อมแผนประจำปีไปบ้าง แต่การทดสอบระบบของส่วนกลางร่วมกับส่วนภูมิภาคไม่ค่อยมีเท่าไหร่ การที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมาซ้อมแผนในครั้งนี้ ต้องการทดสอบระบบแผนเผชิญเหตุของแต่ละจังหวัดอันดามัน ถ้าพูดง่าย ๆ ว่า เรื่องสึนามิสิ่งที่พี่น้องประชาชนจะต้องตื่นตัวก็คือในเรื่องการมีความรู้พื้นฐานในเรื่องการเอาตัวรอด นอกจากส่วนราชการซึ่งกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติทำหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ต้องเรียนว่าในระบบเตือนภัยของประเทศเราโดยเฉพาะศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติมีมาตรฐานสากลทัดเทียมกับนานาประเทศ

อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวต่อว่า เรายังมีในเรื่องของทุ่นสึนามิซึ่งเรามี 2 ตัวด้วยกัน ในทะเลมหาสมุทรอินเดียตัวหนึ่งประมาณ 965 กิโลเมตรห่างจากเกาะภูเก็ต ในส่วนของทะเลอันดามันเรามีตัวหนึ่ง ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา สิ่งแรกที่เราตรวจสอบคือเรื่องของแผ่นดินไหวในทะเลถ้าเกิดเรามีเครือข่าย ซึ่งเราประสานงานในระดับภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย อินเดีย หรือทางออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกาที่จะตรวจสอบเบื้องต้น แต่เมื่อเกิดสึนามิจริงตัวทุ่นของเราก็จะจับในเรื่องของความสูงของตัวคลื่นได้ระยะเวลาที่จะกระทบฝั่งที่แรกที่จังหวัดภูเก็ต เราจะรู้ตัวล่วงหน้าประมาณ 1.30 ชั่วโมง เราจะกดสัญญาณที่เรียกว่า M2 ไปยังหอเตือนภัย 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน 129 หอ

อย่างไรก็ตาม การกดสัญญาณครั้งแรกให้เตรียมพร้อมที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ริกเตอร์ขึ้นไป เมื่อทุ่นตรวจจับระดับความสูงของคลื่นได้ก็จะกด M3 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนั้นหมายถึงเกิดคลื่นสึนามิจริง ดังนั้นทุกจังหวัดต้องดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุเพื่ออพยพพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด ส่วนทุ่นในทะเลอันดามันจะตรวจจับคลื่นได้ก่อนประมาณ 45 นาที ก่อนที่จะกระทบฝั่งเกาะเมียง จ.ภูเก็ต ประมาณ 20 นาที ซึ่งสิ่งที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอยากเห็นความพร้อมของแต่ละจังหวัด ในการทดสอบระบบทั่วประเทศ โดยเฉพาะ 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน เมื่อเกิดวิกฤตภัยอำนาจการบัญชาการเหตุการณ์จะยกระดับขึ้นเป็นระดับ 3 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดจะแปลสภาพเป็นผู้บัญชาการส่วนหน้า ภายใต้การกำกับสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์
