ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.68 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า การอ่อนค่าลงของเงินบาทยังคงมาจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวและแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเราประเมินว่า ปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าดังกล่าวจะยังคงมีอยู่ในระยะสั้นนี้ (อย่างน้อยจนกว่าตลาดจะเลิกหรือคลายกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด) ทำให้ เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว sideways และอาจเข้าใกล้โซนแนวต้าน 34.70-34.75 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนราคาที่ ผู้เล่นในตลาดบางส่วน ที่เป็นฝั่ง Long USDTHB (เชื่อว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง) รอทยอยขายทำกำไรอยู่

อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในช่วงที่ ตลาดทยอยรับรู้อัตราเงินเฟ้อ PCE ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ชะลอลงอย่างที่ตลาดคาดและกลับเร่งตัวขึ้น เราประเมินว่า ตลาดอาจกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟดต่อ หนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านถัดไป แถว 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ได้ไม่ยาก แต่เรามองว่า แรงกดดันฝั่งอ่อนค่าอาจจะไม่มาก หลังตลาดเริ่มทำใจกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงช้า ตั้งแต่รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ก่อนหน้ามาสักพักแล้ว ในทางกลับกัน หากอัตราเงินเฟ้อ PCE ชะลอลงมากกว่าคาด ก็อาจช่วยหนุนให้ ตลาดคลายกังวลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้บ้าง ซึ่งในภาพดังกล่าวอาจเห็นเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นทดสอบแนวรับ 34.40-34.50 บาทต่อดอลลาร์ได้

อนึ่งในระยะสั้น เรามองว่า ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มองข้ามไม่ได้และอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินในช่วงนี้ได้

ทั้งนี้ ความผันผวนของตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.80 บาท/ดอลลาร์

Message us