เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับ นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานในพิธีเปิดการพร้อมกล่าวต้อนรับผู้แทนจาก 7 จังหวัด (จังหวัดระยอง ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี ตราด และจันทบุรี) โดยมี นางปิติมา รักพานิชมณี กรรมการสภากาชาด ผู้แทนภาค 3 และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา คณกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด และกิ่งกาชาดอำเภอ ร่วมประชุมฯ รวมกว่า 500 คน ณ ห้องประชุมฟิเดล่า โรงแรมเดอะซายด์ พัทยา ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ได้กล่าวต่อที่ประชุมฯว่า การประชุมในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด และกิ่งกาชาดอำเภอ ร่วมพบปะพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ และผู้ประสบภัยเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ รวมถึงได้พัฒนาทักษาในการทำงานร่วมกันตามหลักพันธกิจ 4 ประการของสภากาชาดไทย ได้แก่ (1) การบริการทางการแพทย์ (2) การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย (3) การบริการโลหิต และ (4) การส่งเสริมคุณภาพชีวิต ของผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ และผู้ประสบภัยในพื้นที่ของจังหวัด
สำหรับ การจัดงานประชุมฯ ในครั้งนี้ น.ส.ประภัสรา ศรีทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี และทีมงานเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมต้อนรับและได้นำร้านค้า ของดีของเด่น และสินค้าชุมชนต่าง ๆ มาจัดจำหน่ายเพื่อเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน พร้อมจัดพิธีเดินธงกาชาดเพื่อแสดงออกถึงพลังและความสามัคคี และชมการแสดงชุด “เสน่ห์เมืองชล” ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดชลบุรีได้อย่างชัดเจน
นายกฤษฎา บุญราช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด บรรยาพิเศษในหัวข้อ “นโยบายการทำงานของเหล่ากาชาดจังหวัดและกิ่งกาชาดอำเภอ” พร้อมยกตัวอย่างโครงการช่วยเหลือสังคม เช่น โครงการตรวจคัดกรองโรคพาร์กินสัน (CheckPD) ต่อจากนั้น ได้รับเกียรติจากคุณสุจิตรา ศรีนาม ที่ปรึกษานายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย บรรยายหัวข้อ “การส่งเสริมบุคลิกภาพสำหรับคณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด” และก่อนปิดท้าย ได้มีการนำเสนอผลงานของเหล่ากาชาด 7 จังหวัดในภาค 3 ได้แก่ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดตราด และจังหวัดจันทบุรี
อย่างไรก็ตาม การจัดประชุมฯ ในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการบูรณาการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และกำหนดทิศทางการทำงานของเหล่ากาชาดจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาคตะวันออกให้สอดคล้องกับนโยบายของสภากาชาดไทย และให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนต่อไป
