ประกอบด้วยสาขา Corporate Governance และสาขา Social Empowerment ตอกย้ำการเป็นองค์กร ต้นแบบ ของการดำเนินงานโดยคำนึงถึงการกำกับดูแลองค์กรที่ดีอย่างมีธรรมาภิบาล และการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมไปสู่ความยั่งยืนในระดับสากล ที่สะท้อนถึงบทบาทการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีการดำเนินงานที่มีความโปร่งใสและยึดหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนภารกิจไปสู่ความอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ารับรางวัล Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2025 ใน 2 สาขา ประกอบด้วยรางวัล Corporate Governance และ Social Empowerment ซึ่งจัดโดยองค์กรพัฒนาเอกชนระดับภูมิภาคเอเชีย (Enterprise Asia) โดยมี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล เพื่อเป็นการยกย่ององค์กรชั้นนำในระดับทวีปเอเชียที่มีการดำเนินงานที่มีความโดดเด่นในด้านความยั่งยืน ความรับผิดชอบต่อสังคม และการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมภิบาลในระดับเอเชีย
ทั้งนี้ รางวัล AREA ถือเป็นหนึ่งในรางวัลอันทรงเกียรติด้าน ESG ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในเอเชีย โดยในปี 2025 มีองค์กรจาก 19 ประเทศ เข้าร่วมเสนอผลงานกว่า 350 โครงการ และ ธ.ก.ส. เป็นหนึ่งในตัวแทนของประเทศไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล โดยรางวัลที่ ธ.ก.ส. ได้รับสะท้อนถึงความสำเร็จและความมุ่งมั่นของธนาคารในการดำเนินงานที่มีความโปร่งใสและยึดหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนภารกิจไปสู่ความอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG โดยงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล กรุงเทพฯ
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวภายหลังการรับรางวัลว่า ธ.ก.ส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีวิสัยทัศน์ “ธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน” และมีบทบาทสำคัญในการดูแลภาคการเกษตรไทยให้มีความเข้มแข็งในระยะยาว พร้อมเดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรด้วยกลไกการเป็นแกนกลางการเกษตร (Essence of Agriculture) ไปสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่ด้านองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพ เงินทุน รวมถึงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ซึ่งรางวัล Corporate Governance ที่ ธ.ก.ส. ได้รับในครั้งนี้ ถือเป็นการสะท้อนถึงการดำเนินงานที่ยึดหลักการกำกับดูแลองค์กรที่ดีอย่างมีธรรมาภิบาลและโปร่งใส จากโครงการ “Strengthening Resilience for Sustainable Rural Development” ซึ่งได้นำเสนอบทบาท ธ.ก.ส. เป็นมากกว่าธนาคาร ไม่ใช่เพียงให้บริการทางการเงินที่ครบวงจรในภาคชนบท แต่เรายังมุ่งสู่การสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน สนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการเกษตรสมัยใหม่ (Agri-Tech) สร้าง “ธนาคารยั่งยืน” และ “ชนบทยั่งยืน” พร้อมดำเนินพันธกิจภายใต้กรอบความยั่งยืนที่คำนึงถึงการสร้างคุณค่าร่วมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างมีธรรมาภิบาล
ในขณะที่รางวัล Social Empowerment สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ธ.ก.ส. ในการส่งเสริมและสร้างการมีส่วนร่วมในของชุมชนด้านการดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชน ผ่านการเปลี่ยนอากาศให้เป็นเงินในโครงการ “BAAC Carbon Credit : Where Air Becomes Wealth” ที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้จากการปลูกต้นไม้ และดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการสะสมและจำหน่ายคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ โดย ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนทั้งด้านองค์ความรู้การวัดปริมาณคาร์บอนเครดิตการบริหารจัดการและการเชื่อมโยงเกษตรกรไปสู่ตลาดคาร์บอนเครดิต โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร พร้อมส่งเสริมพฤติกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ซึ่งทั้ง 2 รางวัลดังกล่าว ถือเป็นก้าวสำคัญของ ธ.ก.ส. ในการปรับองค์กรให้แข็งแรง สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวและเสริมความเข้มแข็งให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว เพื่อเดินหน้าไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG
