
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่อดีตผู้นำกัมพูชาออกมาไลฟ์สดโจมตีรัฐบาลไทย และประเทศไทยโดยมีข้อสังเกตว่า ทั้งคำพูดล่าสุด และก่อนหน้าของผู้นำกัมพูชา ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทยแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการกล่าวโจมตี เพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลไทย ที่มีจุดมุ่งหมายให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล (Regime Change) อย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งขัดต่อทั้งหลักการของกฏหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งหลักการของอาเซียนด้วย
ส่วนที่เกี่ยวกับการเป็น “ศูนย์กลางของอาชญากรรมผิดกฏหมายขนานใหญ่” ในภูมิภาคของกัมพูชานั้น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ได้มีการระบุข้อมูลโดยหน่วยงานของสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime- UNODC) หน่วยงานอิสระอย่าง Amnesty International ตลอดจนสื่อสำนักข่าวระดับโลกต่าง ๆ รวมทั้งยังเป็นข้อมูลจากมิตรประเทศระดับมหาอำนาจ ซึ่งหากกัมพูชาปฏิเสธว่าไม่จริงควร ก็ไปชี้แจงกับหน่วยงานต่าง ๆ และประเทศเหล่านั้นเอง โดยไม่ต้องมาบอกไทย
นายรัศม์ ยังกล่าวถึงประเด็นข้อกล่าวหา หรือคำกล่าวโจมตีอื่น ๆ ของฝ่ายกัมพูชาโดยเชื่อมั่นว่า ประชาคมโลก ตลอดจนผู้มีความรู้ทั่วไป ย่อมสามารถใช้วิจารณญาณ เพื่อพิจารณาได้เองว่าความจริงเป็นเช่นไร ซึ่งจริง ๆ แล้ว ตนเห็นว่า แทบไม่มีแก่นสารใด ๆ ที่มีค่าคู่ควรต่อการชี้แจง
“ไม่น่าเชื่อว่า ผู้นำต่างประเทศ จะเจ็บร้อนแทน ถึงขั้นอธิบายปกป้อง พรรคใดพรรคหนึ่งของอีกประเทศ ขอตั้งข้อสังเกตุว่า มีผลประโยชน์ทางการเมืองร่วมกันในเรื่องใด” นายรัศม์ กล่าว