
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่โรงแรม Melia Hanoi กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท SOVICO Group และ บริษัท FPT Corporation ซึ่งเป็นภาคเอกชนชั้นนำของเวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และนวัตกรรมในภูมิภาค สรุปดังนี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับ นายเหวียน แทงห์ หุ่ง (Nguyen Thanh Hung) ประธานบริษัทและกลุ่ม Sovico
โดยบริษัท SOVICO Group ดำเนินธุรกิจครอบคลุมการบิน พลังงาน และการเงิน รวมถึงสายการบิน Vietjet Air ซึ่งในการหารือ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีที่บริษัท SOVICO เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และชื่นชมความสำเร็จของสายการบิน Vietjet Air รวมถึงได้แสดงความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนแผนการขยายการลงทุนของ Thai Vietjet ในประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกันถึงศักยภาพการขยายเส้นทางบินจากเวียดนามไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ที่จะช่วยส่งเสริมการขยายธุรกิจและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศมากขึ้น

บริษัทฯชั้นนำของเวียดนาม แสดงความสนใจที่จะขยายธุรกิจการบินในไทย รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรและศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) และศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรการบิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะไทยวางเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค ตลอดจนอุตสาหกรรมอื่น ๆ จึงขอเชิญชวนให้บริษัทฯ พิจารณาขยายการลงทุนในสาขาธุรกิจอื่น ๆ ที่บริษัท มีความชำนาญเพิ่มเติมด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีพบหารือกับนายฝ่าม มิงห์ ถวน (Pham Minh Tuan) รองประธานบริหาร บริษัท FPT Corporation ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ของเวียดนาม และดำเนินธุรกิจด้านการศึกษา โดยได้เปิดมหาวิทยาลัย FPT เป็นของตัวเอง ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณที่บริษัทเข้ามาลงทุนในภาคธุรกิจแห่งอนาคต ทั้ง AI และ Data Clound รวมทั้งการศึกษา และยินดีต่อข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง FPT กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมเชิญชวนให้บริษัทลงทุนในไทยเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยง value chain ระหว่างไทย กับเวียดนาม ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำต่อภาคเอกชนรัฐบาลไทยพร้อมอำนวยความสะดวกต่อภาคเอกชนเวียดนามในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว และการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีในภูมิภาค ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองประเทศจะเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ให้แน่นแฟ้นและยั่งยืน
