เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) พร้อมด้วยสว.กลุ่มสีขาวจำนวนหนึ่ง ร่วมแถลงไม่เห็นด้วยกับการนัดประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิวาระพิเศษในวันที่ 16 พ.ค.นี้ว่า พวกตนได้รับทราบหนังสือเชิญเข้าประชุม โดยจะมีประธานวุฒิสภาเป็นประธาน แต่ในหนังสือเชิญประชุมมีวาระที่สอดไส้เข้ามา คือ วาระที่ 4.3 การเตรียมการตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติและจริยธรรม ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งใน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเตรียมการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 2 คน
ทั้งนี้ ถือเป็นวาระที่แฝงเร้นเข้ามา เนื่องจากก่อนปิดสมัยประชุมได้มีการเสนอชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน เข้ามาแล้วถูกตีตก และพอปิดสมัยประชุมกลับมีความเร่งรีบในการเสนอชื่อคนของตัวเอง ได้ยินข่าวมาว่าแทบจะเอาเสลี่ยงไปหามให้เข้ามาเป็นกรรมการในองค์กรอิสระด้วย พวกตนจึงมีความวิตกกังวลว่า หากเป็นเช่นนี้องค์กรอิสระก็จะมีบุคคลที่มาจากเบื้องหลังเดียวกันทั้งหมด อยากทราบว่าเป็นสีอะไร โยงใยกับพรรคการเมืองใด ขอให้สืบดู และขอให้จับตา ว่า จะมีการเร่งรีบแต่งตั้งองค์กรอิสระอีก เพราะว่าปีนี้องค์กรอิสระจะว่างลงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ กกต.ทั้งหมด 7 คนก็จะทยอยไปเรื่อยๆ หากเป็นเช่นนี้อนาคตของบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร จึงขอให้ประธานวุฒิสภายับยั้งการแต่งตั้งบุคคลองค์กรอิสระในช่วงการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ
“อยากจะถามว่าจะดึงดันเพื่อประโยชน์ของใคร มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ การตรวจสอบสว.ขององค์กรอิสระขณะนี้ก็ดำเนินไปโดยที่ประชาชนอยากจะรู้คำตอบว่า สุดท้ายจะลงเลยอย่างไร ดังนั้นจึงไม่อยากให้ใช้วาระที่เราจะประชุมงบประมาณฯ มาทำเรื่องแอบแฝงเช่นนี้ และเรากำลังรวบรวมรายชื่อท่านสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่เห็นด้วยกับจุดยืนตรงนี้ เพื่อที่จะทักท้วง ยังเป็นเอกสารต่อไป” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า หากมีการเร่งรีบในการพิจารณาบุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ก็จะได้องค์กรอิสระที่ไม่เป็นอิสระอยู่ข้างกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และความเป็นธรรมในสังคมจะไม่มี แล้วบ้านเมืองจะอยู่อย่างไร จึงมองว่าเรื่องกรอบเวลา ส่วนใหญไม่ใช่เรื่องใหญ่สามารถจะดำเนินการได้ ซึ่งในสมัยประชุมที่แล้ว เสียงส่วนใหญ่ ยังตีตกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำไมไม่เห็นแก่เงื่อนเวลา และมองว่าหากเร่งรีบ เช่นนี้ องค์กรอิสระจะถูกครอบงำ จะทำให้ไม่มีการตรวจสอบอย่างเป็นธรรม แม้กระทั่งมีการทุจริต โกงกินบ้านเมือง หากได้ ป.ป.ช. ที่ไม่เป็นกลาง ก็ย่อมจะต้องเอียงข้างฝ่ายที่เลือกตัวเองเข้ามา หรือหากมีเรื่องที่ขัดขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นกลาง ก็จะทำให้การตีความก็ดี คือการพิจารณาเรื่องใดๆ ก็ดี อยู่ในข้างที่ตุลาการนั้นมีที่มาจากอะไร เพราะฉะนั้นแม้เราจะเป็นเสียงที่ไม่ใช่เสียงข้างมากในวุฒิสภา แต่เราขอเสียงแห่งความเป็นธรรม จากประชาชน
