สว.เปิดสภาฯถล่มแหลก”ทวี สอดส่อง”โยงปมฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยมีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติเรื่องขอเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ของ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.นฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา โดยเปิดให้สว.อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ ส.ว.ส่วนใหญ่ มาประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ผู้อภิปรายส่วนใหญ่ตั้งคำถามอย่างดุเดือด พุ่งเป้าไปที่กรณีสิทธิผู้ต้องขัง เชื่อมโยงไปยังชั้น 14 รวมถึงการที่กระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอส) ตรวจสอบเรื่องการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 หลังจากที่ส.ว.อภิปรายสนับสนุนญัตติครบถ้วนแล้ว พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ อภิปรายปิดญัตติ กล่าวสรุปว่า การอภิปรายของ ส.ว. ทำให้เห็นว่า รมว.ยุติธรรม และ อธิบดีดีเอสไอ งานควรทำไม่ทำ กลับไปทำในสิ่งที่ไม่มีอำนาจ

อย่างไรก็ตาม กรณีที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)เตรียมพิจารณาคดีการฮั้วเลือก ส.ว. เป็นคดีพิเศษนั้น มีข้อโต้แย้งว่าการพิจารณาดังกล่าวเข้าข่ายก้าวก่ายอำนาจของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อีกทั้งไม่มีหลักฐานเพียงพอ ทั้งเส้นทางการเงิน โพย ไม่มีพยานหลักฐานชี้ชัดว่าทุจริตเลือก จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษการดำเนินการก้าวก่ายเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่บุคคลใดจะใช้สิทธิล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ดังนั้น การสอบสวนคดีฮั้ว เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ไม่ใช่ ของดีเอสไอ ซึ่งการที่ดีเอสไอจะสอบสวนฮั้วเลือกตั้ง ส.ว. เป็นการกระทำนอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ เมื่อพิจารณาแล้วหากดีเอสไอจะรับคดีฮั้วส.ว.เป็นคดีพิเศษต้องพิจารณาตามกฎหมายการสออบสวนคดีพิเศษ คือ คดีอาญาที่กำหนดไว้ตามมาตรา 21 และเมื่อพิจารณาแล้วคดีเลือกตั้งไม่ใช่คดีที่กำหนดไว้ในอำนาจของดีเอสไอ” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ อภิปราย

“จากการอภิปรายของส.ว. แสดงให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมขาดประสิทธิภาพ ถูกครอบงำจากฝ่ายการเมือง ผมขอความเห็นจากที่ประชุมส่งข้อสังเกตจากการอภิปรายที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป หรืออาจจะขอเปิดอภิปรายทั่วไป พ.ต.อ.ทวี กรณีผิดมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางกาเมืองอย่างร้ายแรง และยื่นถอดถอนต่อไป รวมถึงพิจารณาการทำหน้าที่ของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ฐานทุจริตต่อหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ขณะที่ นายสิทธิกร ธงยศ สว. อภิปรายพร้อมภาพที่มีเขียนข้อความ “ขบวนการหากินกับคุก”ว่า มีความไม่เท่าเทียมกันในเรือนจำ ยุคที่มีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นรมว.ยุติธรรม 2 ปี ปรากฎแน่ชัดว่า ไม่มีจริยธรรม คุณธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์ปรากฎในสังคมเป็นที่ยอมรับ ตนได้รับข้อมูลมาจากผู้หวังดีเสนอข้อมูลราชทัณฑ์มาให้มีตัวละคร ชื่อ สมเด็จในกรมราชทัณฑ์และเรือนจำ

ทั้งนี้ นักโทษที่เข้าเรือนจำเมื่อปรับตัวได้ จะมีลูกน้องเข้ามาบอกว่า จะอำนวยความสะดวกให้ และจะพาไปพบสมเด็จ ที่มีพรรษาในการติดคุก เป็นมือไม้ให้เจ้าหน้าที่ที่ทุจริต เช่น การร้องขอความสะดวกในการอยู่ กิน ซึ่งปกติเรือนจำจะให้ญาติฝากเงินกับผู้ต้องขัง 9,000 บาท แต่หากผ่านสมเด็จ จะได้อภิสิทธิ์ฝากเงิน และกินอยู่ในเรือนจำ ซึ่งมีจำนวนหลักหมื่นและหลักแสน

“นักโทษให้ญาติโอนเงินผ่านบัญชีม้าให้กับเจ้าหน้าที่ หลังจากได้รับเงิน นักโทษจะได้ใช้ชีวิตประจำวัน มีกล่องนมเท่ากับเงิน 10 บาท กาแฟฟรอย แทนเงิน 100 บาท แต่ระเบียบไม่เกิน 9,000 บาท หากผ่านสมเด็จใช้ได้ไม่อั้น และหากผ่านการอนุมัติจะมีการเล่นพนันในเรือนจำ โดยมีนมกล่อง หรือกาแฟฟรอย เป็นชิปเล่นพนันในเรือนจำ”นายสิทธิกร กล่าว

นายสิทธิกร กล่าวว่า ฤดูกาลย้ายแดนของนักโทษ หากผ่านสมเด็จจะได้รับการอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ไม่ต้องย้าย และหากต้องการป่วยทิพย์ ก็โอนเงินผ่านบัญชีม้า และมีการเบิกเงินสดไปดูแลเจ้าหน้าที่ ให้อำนวยความสะดวกป่วยทิพย์ ซึ่งเงินหมุนเวียนสมเด็จในแต่ละแดน เฉลี่ย 10-20 ล้านบาท

“ขอถามพ.ต.อ.ทวี ว่าเป็นความจริงหรือไม่ รวมถึงการใช้โทรศัพท์ ผ่านสมเด็จจะไม่มีการกีดกัน ทั้งนี้ ที่รับข่าวสารว่ามีนักโทษเทวดา ที่เข้าเรือนจำไม่กี่ชั่วโมง จะมีซุปเปอร์สมเด็จ จัดการ จัดระบบให้ ขบวนการที่เล่ามา เรื่องสมเด็จเกิดในยุคนี้ ซึ่งยุคนี้ไม่มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่เท่าเทียมกันในหมู่ผู้ต้องขัง มีอภิสิทธิชน” นายสิทธิกร กล่าว

จากนั้น นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ฐานะประธานในที่ประชุม แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขอให้สำนักงานเลขาธิการส่งข้อเสนอแนะให้ ครม.พิจารณาต่อไป และการพิจารณาญัตติดังกล่าวเห็นว่าสำคัญและเป็นประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของ คณะกรรมการธิการ (กมธ.) องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา  จึงมอบหมายให้ศึกษาเพิ่มเติม และเสนอผลการศึกษาให้ สว.พิจารณาต่อไป

Message us