หอการค้าตราดโอดปัญหาชายแดนส่งผลกระทบส่งออกผลไม้อย่างหนัก

ทันตแพทย์หญิง วิภา สุเนตร ประธานหอการค้าจังหวัดตราด เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มั่นคงส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจหลายด้าน ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และความไม่มั่นคงทางการเมืองทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง กระทบต่อการลงทุนในธุรกิจและโครงการต่างๆ ภาคธุรกิจ และภาคบริการสั่นคลอนทางภาคธุรกิจโดยเฉพาะบริการมีความเชื่อมั่นลดลงอย่างมาก และที่เห็นชัดเจนมากที่สุดก็คือ ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนลดลง ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งภาคเอกชนมองว่า ทางฝ่ายความมั่นคงควรจะต้องออกมาแก้ปัญหาในเรื่องนี้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้ผลกระทบตามมามากกว่านี้

ทั้งนี้ รายได้จากการค้าชายแดนด้านจังหวัดตราดที่มีมากกว่า 3 หมื่นล้านที่เกิดจากการส่งออก และทางฝั่งกัมพูชาส่งสินค้าเข้ามาอีกกว่า 3-4 พันล้านจะส่งผลกระทบต่อการตลาดระหว่าง 2 ประเทศ และการจำหน่ายสินค้าที่ลดลงจะยิ่งทำให้ภาคธุรกิจและภาคการผลิตได้รับผลกระทบมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมืองและการค้าขายที่มีการจำกัดเวลา การปิดเปิดด่านชายแดน และหากปิดทั้งหมดอย่างถาวรก็กระทบมากขึ้น

ประธานหอการค้าจังหวัดตราด กล่าวว่า วันนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ประกอบการการค้าและธุรกิจ รวมทั้งชาวสวนผลไม้ของจังหวัดตราดที่ส่งผลไม้ข้ามไปยังกัมพูชาและเวียตนามไม่สามารถนำผลไม้และพืชผลการเกษตรเข้าไปยังกัมพูชาได้ เพราะมีการห้ามรถขนผลไม้ข้ามแดน หรือลดการนำเข้าไป การท่องเที่ยวก็เดินทางเข้ากัมพูชาไม่ได้เหมือนปกติ หอการค้าจังหวัดตราดมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ และจะนำเสนอไปยังหอการค้าไทยเพื่อให้เสนอต่อรัฐบาลเพื่อแก้ไขต่อไป

ด้านนายวุฒิพงศ์ รัตมณฑ์ ประธานเครือข่ายสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจังหวัดตราด กล่าวว่า ในปีนี้คาดว่าผลผลิตมังคุดของจังหวัดตราดจะออกสู่ตลาดประมาณ 50,000 ตัน ปัจจุบันเริ่มเข้าสู่ช่วงท้ายของฤดูแล้ว พบว่าราคาผลผลิตของมังคุดเริ่มตกต่ำ จากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสภาพดินฟ้าอากาศที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณภาพของมังคุดลดลงบางส่วน ประกอบกับเริ่มมีผลผลิตมังคุดของทางภาคใต้ออกสู่ตลาด และการนำมังคุดมาแปรรูปยังมีน้อย หรือแม้แต่เรื่องการซื้อของผู้บริโภคที่มีผลไม้หลายชนิดออกสู่ตลาดพร้อม ๆ กัน

“ ส่วนกรณีกัมพูชางดรับสินค้าทางการเกษตรทั้งผักและผลไม้จากฝั่งไทย ทำให้สินค้าเกษตรอย่างมังคุดออาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ที่ผ่านมามังคุดที่ส่งออกจากจังหวัดตราดส่วนใหญ่มีตลาดหลักอยู่ที่เวียดนาม ส่วนตลาดกัมพูชามีปริมาณความต้องการน้อยกว่า เพียง 5 -10 เปอร์เซ็นต์ของยอดการส่งออก ส่วนปัญหามังคุดท้ายฤดูมีราคาตกต่ำลงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องมาร่วมกับวางแผนรับมือในฤดูการผลิตในปีหน้าต่อไป”นายวุฒิพงษ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายวินัย ขยันยิ่ง เกษตรจังหวัดตราด และสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดตราด ขอเชิญชวนสั่งซื้อมังคุด (คละเกรด) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมังคุด จังหวัดตราด ปีการผลิต 2568 ซึ่งมังคุดที่นำมาจำหน่ายเป็นมังคุดดำ (คละเกรด)

ข่าว/ภาพ : จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดตราด

Message us