เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย รับหนังสือร้องเรียนจากผู้เสียหายกว่า 80 คน ที่เป็นเหยื่อถูกลวงจากบริษัททัวร์แอบแฝงส่งผีน้อยผ่าน Tiktok บัญชี โค้ช ต้น , บริษัท พารวย ทราเวล , บริษัท พิศวริน อินโนเวชั่น จำกัด หลอกลวงผู้เสียหายว่าจะพาไปทำงานเป็นผีน้อยด้วยวีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่าสัมมนา และมีวิธีช่วยให้ผ่าน ตม.แน่นอน เมื่อชำระเงินกลับถูกลอยแพบล็อกการติดต่อ และไม่คืนเงิน เมื่อทวงถามและพยายามขอเงินคืนกลับถูกแจ้งความเท็จและยัดข้อหาทำให้ถูกฟ้องร้อง ได้รับหมายศาลจนต้องหาเงินมาสู้คดี เป็นเหยื่อถูกโกง แต่ต้องหายืมเงินมาสู้คดีที่ถูกคนโกงฟ้อง
หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงปลายปี 2565 ได้ไปเห็นประกาศหาคนไทยไปทำงานด้านเกษตรกรที่ประเทศญี่ปุ่น ให้รายได้ดี วันละ 8,500 เยนต่อวัน จึงสนใจและติดต่อทักไปหาคนที่โพสต์ และมีการพูดคุยถึงรายละเอียดการทำงาน ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อตัดสินใจโอนเงินค่าเอเจนซี่ คนละ 29,990 – 100,000 บาท จากนั้นได้นัดวันเพื่อที่จะเดินทาง แต่กลับถูกเลื่อนวันการเดินทางถึง 2 ครั้ง โดยอ้างว่า มีคนแจ้งเจ้าหน้าที่ ตม. และกรมแรงงาน ว่าจะมีการพาคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายที่ประเทศญี่ปุ่น จึงยับยั้งการเดินทางออกไปก่อน โดยบริษัทได้ยื่นข้อเสนอให้ผู้เสียหายเป็น 2 ข้อ คือคนที่จะไปต่อ ก็จัดเดินทางอีกครั้ง ส่วนคนที่ไม่ไปต่อจะคืนเงินให้ ทำให้ผู้เสียหายแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มคนที่ไม่ไปต่อก็พยายามติดต่อขอเงินคืน แต่ก็ถูกผลัดวันออกไปเรื่อยๆ โดยใช้ข้ออ้างต่างๆ ส่วนกลุ่มคนที่มีความต้องการที่จะไปต่อ กลับถูกเลื่อนการเดินทางออกไปเรื่อยๆ ไม่ได้เดินทางจริง จึงติดต่อขอเงินคืน แต่ก็ไม่เคยได้เงินคืน ซึ่งที่ผ่านมาได้ไปร้องเรียนสื่อและเพจต่างๆ แต่เรื่องไม่มีความคืบหน้ามานานกว่า 3 เดือน ซ้ำยังถูกบุคคลที่เป็นมิจฉาชีพฟ้องกลับในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เพราะข้อความบางส่วนที่กลุ่มผู้เสียหายคุยกันในไลน์กลุ่ม มีการพาดพิงถึงมิจฉาชีพคนดังกล่าว จากการตรวจสอบประวัติมิจฉาชีพพบว่า เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะดังกล่าวเมื่อปี 2563 ที่จังหวัดลำปาง และกลุ่มผู้เสียหายเชื่อว่า มิจฉาชีพคนนี้กระทำโดยเพียงคนเดียว เพราะจากเสียงรวมที่พูดคุยกันมีแค่เสียงเดียว ถึงแม้จะอ้างว่า ภายในบริษัท มีเจ้าหน้าที่จากฝ่ายต่างๆ ที่คอยดูแล
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้แล้ว และจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด และจะประสานไปยังสถานีตำรวจต่าง ๆ เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าคดีในแต่ละพื้นที่
