เมื่อวันที่ 19 พ.คง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 ซึ่งมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 ชะลอไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะเหมาะสม
เมื่อถามว่า นอกจากปัจจัยภาษีสหรัฐแล้ว เป็นเพราะเงินคงคลังไม่เพียงพอใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ปัจจัยทำให้ชะลอโครงการนี้คือ งบประมาณมีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า จะใช้งบอย่างไร ใช้งบให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้อย่างไร ตอนที่จะทำเรื่องดิจิทัลวันนั้นคาดหมายว่า เศรษฐกิจจะ 3 -3.5 % เงินเฟ้อเงิน 1.2-1.5 % ฉะนั้นทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย และการประเมินเศรษฐกิจจากทุกสำนักมองว่า ไทยอยู่ในประเทศที่ฟื้นตัวช้า ค่อยๆ ขึ้น รัฐบาลจึงใส่กระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการเติบโต แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนมีข้อจำกัดจากปัจจัยนอกประเทศมากกระทบภายในประเทศ ต้องมีการปรับแผนการใช้เงิน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับมีเงินหรือไม่มีเงิน
เมื่อถามว่า การชะลอโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ถือว่า เป็นการซื้อเวลาหรือไม่ ทำไมถึงไม่ใช้คำว่า ยกเลิกไปเลย นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ได้ซื้อเวลา ถ้าทุกอย่างกลับมาดีหมด สถานการณ์เปลี่ยน เราก็นำมาพิจารณาใหม่ได้
นายพิชัย กล่าวว่า ที่จำเป็นต้องมีการทบทวน มาจากปัจจัยเรื่องการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลให้ต้องมีการปรับประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจลง ส่งผลไปถึงการผลิตและการจ้างงานด้วย รวมถึงสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เคยมีความเห็นตั้งแต่แรกว่า อยากให้มีการทบทวนการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต
รมว.คลัง กล่าวว่า ยังเหลืองบประมาณอีก 1.57 แสนล้านบาท จะนำไปใช้แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น โครงการน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร แผนงานกระทรวงคมนาคม รวมถึงการโปรโมทการท่องเที่ยวในเมืองรอง และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า SME โดยจะมีการออกซอฟต์โลน ช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออก ทั้งหมดเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และก่อให้เกิดการจ้างงาน
